ผู้เขียน | ชุมฉันท์ ชำนิประศาสน์ |
---|
ก่อนถึงวันวาเลนไทน์ เป็นโชคดีของ ฮาคีม อัล อาไรบี นักฟุตบอลอดีตทีมชาติบาห์เรนได้รับอิสรภาพจากไทยกลับไปยังออสเตรเลีย
ถึงแม้ว่าฮาคีมอาจไม่ได้ฉลองวาเลนไทน์แบบสากล แต่อย่างน้อยก็ได้อยู่กับคนรักและครอบครัวโดยไม่ถูกกักขังอีกครั้ง ซึ่งเป็นความต้องการพื้นฐานของเสรีชนทั่วไป
ตอนแรกที่ฮาคีมมาเมืองไทย เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนก็เพราะต้องการมาฮันนีมูนกับภรรยา
การมาฮันนีมูนก็หมายความว่าคนที่รักกันอยากใช้เวลาอยู่ด้วยกันและมีประสบการณ์ซาบซึ้งใจด้วยกัน
ถ้ามองในแง่การท่องเที่ยว ถือว่าประเทศไทยเป็นจุดหมายที่น่าสนใจ เพราะมีสถานที่สวยงาม ผู้คนน่ารัก อาหารอร่อย เลือกคุมค่าใช้จ่ายในระดับที่เหมาะกับฐานะของตนเองได้
กรณีของฮาคีม การมาเจอประสบการณ์ไปอยู่คุกไทยแลนด์ 70 วันแบบนี้คงจะเข็ดไปนาน
ส่วนประเทศไทย ฝ่ายปฏิบัติหน้าที่และฝ่ายประเมินสถานการณ์ รวมถึงฝ่ายตัดสินใจ คงได้บทเรียนอีกครั้งในเรื่องการส่งตัวผู้ลี้ภัยในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน หรือผู้เข้าเมืองผิดกฎหมาย
หลังจากผ่านช่วงเวลาของการถูกกดดันจากสองประเทศ รวมถึงกลุ่มสิทธิมนุษยชนนานาชาติ จนมีคนไทยบางคนประชดประชันแนวโหดให้เอาฮาคีมไปโยนทะเล เพราะทำให้ประเทศไทยเดือดร้อน
แต่สุดท้ายเรื่องฮาคีมจบด้วยดี เหมือนกรณีของ น.ส.ราฮัฟ โมฮัมเหม็ด อัล-คุนูน
สาววัยรุ่นชาวซาอุดีอาระเบียที่หนีจากครอบครัวมาถูกกักตัวที่สนามบินของไทยก่อนได้ไปลี้ภัยที่แคนาดา
ฮาคีมกลับไปถึงนครเมลเบิร์นได้หลังจากตัวแทนรัฐบาลไทยเดินทางไป
เจรจากับบาห์เรน และนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียก็ขอบคุณไทยที่หาทางออก
เช่นนี้ได้
เจ้าหน้าที่ไทยยังย้ำด้วยว่า ไม่ได้ขึ้นบัญชีดำนายฮาคีม หากมีเอกสารเดินทางและใช้วีซ่าถูกต้อง ก็เดินทางไปได้ทุกประเทศ รวมถึงประเทศไทย
พูดถึงขนาดนี้หลายๆ คนก็คิดแทนว่าคงไม่เสี่ยงกลับมาอีกแล้ว อย่างน้อยในช่วงเวลาที่คดีในบาห์เรนยังไม่หมดอายุความ
ส่วนประเทศไทยก็ต้องกลับมาสาละวนกับการจัดกิจกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยวนานาชาติให้มาฉลองฮันนีมูน ฉลองการเป็นแฟนกัน หรือฉลองแต่งงานกันในช่วงวันวาเลนไทน์ เพื่อโปรโมตการท่องเที่ยวว่าไทยแลนด์เป็นแลนด์ออฟสไมล์ ไม่ว่าไปเที่ยวไหนก็จะเจออาหารดีดนตรีไพเราะ
ความจริงแล้วเสน่ห์ของการท่องเที่ยวของไทยนี้ไม่ต้องทุ่มทุนสร้างด้วยระบบหรือสูตรสำเร็จอะไร ทางการเพียงแต่ไปบริหารจัดการระบบอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้รองรับนักท่องเที่ยว
ส่วนงานด้านการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติอาจเหลื่อมซ้อนอยู่กับงานรับนักท่องเที่ยว แต่ต้องไม่ให้ปะปนกัน
กรณีของฮาคีมกลายเป็นเรื่องที่ถูกกดดันอย่างกว้างขวาง เพราะเขาไม่ใช่อาชญากรข้ามชาติ ไม่ใช่คนที่เคยไปทำร้ายใครจนเสียชีวิต เป็นเพียงผู้ชายคนหนึ่งที่อยากพาหญิงคนรักมาเที่ยวเมืองไทย
เมื่อมองในฐานะเพื่อนมนุษย์ กรณีฮาคีมจบลงแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง