ผู้เขียน | สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน |
---|
มติ ครม.เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เห็นชอบให้มีวันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษ คือ วันศุกร์ที่ 12 เมษายน ทำให้มีวันหยุดสงกรานต์เพิ่มต่อเนื่องเป็น 5 วัน คือ ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 12 เมษายน ไปจนถึงวันอังคารที่ 16 เมษายน
นับเป็นมติ ครม. ที่ทำให้คนไทยรู้สึกมีความสุขขึ้น จะได้ชุ่มฉ่ำกับเทศกาลสงกรานต์ยาวนาน 5 วัน
สอดรับกับความรู้สึกอันร้อนรุ่มในหมู่ประชาชนคนไทย ภายใต้บรรยากาศการเมืองเรื่องการเลือกตั้ง ที่กำลังเต็มไปด้วยเหตุการณ์เดือดระอุในช่วงระยะนี้พอดี
พอนึกถึงความเย็นฉ่ำสนุกสนาน คงช่วยคลายความอบอ้าวในอารมณ์ลงไปได้บ้าง
ขณะเดียวกันเทศกาลสงกรานต์ จะมีขึ้นหลังจากผ่านวันเลือกตั้ง 24 มีนาคมไปแล้ว ประมาณ 3 สัปดาห์
ยังไม่รู้ว่าสถานการณ์หลังวันเลือกตั้งนั้น จะเป็นเช่นไร
ดังนั้น สงกรานต์ปีนี้จะอยู่ในบรรยากาศแบบไหน ยังยากจะคาดเดาล่วงหน้าได้
จะได้สดชื่นรื่นเริงเต็มอารมณ์ หรือว่าสนุกแบบกร่อยๆ ก็ยังไม่รู้
ความจริงแล้ว เมื่อประเทศมีการเลือกตั้ง มีประชาธิปไตยกลับคืนมา จะเป็นหนทางที่นำไปสู่การคลี่คลายอะไรต่อมิอะไรหลายประการ
เมื่อบ้านเมืองกลับสู่ยุคเปิดกว้าง ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองได้ การเมืองการบริหารอยู่ในระบบที่ถูกตรวจสอบได้ ทั่วโลกจะกลับมาให้การยอมรับ ส่งผลให้เศรษฐกิจการค้าการลงทุนฟื้นตัว
แต่เพราะเกิดเหตุการณ์หลายอย่างที่ทำให้การกลับมามีการเลือกตั้งหนนี้ เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน จนป่านนี้ความรู้สึกลึกๆ ในหมู่ประชาชนว่าจะมีการเลือกตั้งแน่นอนหรือไม่ ก็ยังไม่เต็มร้อย
เมื่อไม่กี่วันมานี้ เกิดกรณีเอกสารราชกิจจานุเบกษาปลอม ตามด้วยข่าวลือรัฐประหารซ้อน การลือก็กระพือไปไกลได้ทันที
เพราะพื้นฐานคือไม่อาจมั่นอกมั่นใจอะไรได้
แต่เอาเป็นว่า มีบทสรุปชัดเจนว่านั่นแค่ข่าวลือ วันนี้ประเทศเรายังเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งอย่างแน่นอน
อีกทั้งต้องเชื่อมั่นว่า การเลือกตั้งนี่แหละ คือหนทางคลี่คลายปัญหาประเทศชาติถูกทิศถูกทางที่สุด
ระยะนี้พรรคการเมืองต่างๆ พากันนำผู้สมัครออกหาเสียง ปราศรัยกันอย่างคึกคัก
บรรยากาศในการพบปะระหว่างฝ่ายลงเลือกตั้ง กับประชาชนคนเลือกตั้งนั้น สิ่งที่สะท้อนให้เห็นคือ ชาวบ้านส่วนใหญ่ให้ความสนใจกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ตั้งความหวังว่านักการเมืองและพรรคการเมืองจะมีนโยบายช่วยให้ปากท้องของชาวบ้านอิ่มสบายมากขึ้น
ดังที่กล่าวกันว่า หลายปีมานี้ประชาชนสนใจประชาธิปไตยอย่างจริงจังขึ้น และมองในเชิงนโยบายมากขึ้นแล้ว
เพราะเงินซื้อเสียงไม่กี่ร้อยบาท ไม่อาจเทียบได้กับนโยบายเศรษฐกิจดีๆ ในหลายรัฐบาลก่อนหน้านี้ ทำให้ชาวบ้านกินดีอยู่ดีอย่างยั่งยืนกว่า
ดังนั้น ต้องร่วมกันสนับสนุนกระบวนการเลือกตั้งให้ลุล่วง ถึงวันเปิดคูหากาบัตร ต้องไปใช้สิทธิให้ท่วมท้น
เพราะการเลือกตั้งสำหรับชาวบ้านระดับล่าง คือ ประชาธิปไตยที่กินได้ ตอบสนองชีวิตความเป็นอยู่ได้จริง
รวมทั้งต้องทำให้เสียงของประชาชนที่ลงคะแนน เป็นพลังอันมหาศาล เป็นกระแสถล่มทลาย
จนกระบวนการนอกกติกา ถ้ามีจริง ก็ไม่สามารถเบี่ยงเบนผลเลือกตั้งได้
สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน