สถานีคิดเลขที่ 12 : เกมเปลี่ยน!

เพื่อไทยพรรคการเมืองโฮลดิ้ง ลงทุนเอง และสู้ผ่านบริษัทในเครือ ราศีหมองชอบกล
นับแต่เหตุการณ์ศุกร์ 8 กุมภาพันธ์เป็นต้นมา
ทั้งที่ ควรจะเคลื่อนไหว ทำงานหนักกว่าเดิมหลายเท่าทวีคูณ เพื่อให้ได้เก้าอี้ ส.ส.เขตเพิ่มเติมจากเป้าหมายเดิม ทดแทนจำนวนที่นั่งที่ขาดหายไป เมื่อค่อนข้างแน่ชัดว่า การเลือกตั้งทั่วไป 24 มีนาคมนั้น พึ่งหวังการแก้เกมกติกาบอนไซพรรคใหญ่ ด้วยการผุดพรรคไทยรักษาชาติเก็บปาร์ตี้ลิสต์ ไม่ได้อีกต่อไป
แต่พรรคเพื่อไทย ที่ออกตัวแรง แกนนำ-แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเดินสาย โรดโชว์ขายนโยบาย สัปดาห์ก่อนออกพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งและหลังจากนั้นอย่างคึกคัก กลับเงียบ ชอร์ตไปดื้อๆ
แต่ทว่า ก็ไม่แต่เฉพาะเพื่อไทยเท่านั้น
พรรคภูมิใจไทย ก็แปลกเหมือนกัน

แทนที่จะสบช่อง ไทยรักษาชาติเพลี่ยงพล้ำ ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ถึงเพื่อไทย
ภูมิใจไทยรองแชมป์เลือกตั้งภาคอีสาน อันเป็นฐานเสียงหลักเพื่อไทย ก็ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าปกติที่เคยทำ ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ในการรณรงค์หาเสียง โน้มน้าวประชาชนให้หันมาลงคะแนน เลือกผู้สมัคร ส.ส.        ของพรรค
ประหลาดแท้

ที่ดูคึกคักอย่างเป็นพิเศษ กลับเป็นพรรคอนาคตใหม่พรรคประชาธิปัตย์
มิพักต้องเอ่ยถึง พลังประชารัฐ-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าที่นายกรัฐมนตรีในบัญชี พปชร. ที่ดูฮึกเหิม  และมั่นใจอย่างเป็นที่ยิ่ง ในเปอร์เซ็นต์คัมแบ๊ก สวนทางกับเพื่อไทย พรรคคู่แข่งสำคัญ
แต่การนิ่งอยู่ในที่ตั้ง ไม่ว่าจะเป็นพรรคภูมิใจไทย และโดยเฉพาะเพื่อไทย
อาจเป็นเพราะไม่แน่ใจในสถานการณ์ รอฝุ่นจางก่อนก็ได้
แต่ที่สรุปได้คือ ทั้งหมดเป็นปรากฏการณ์อาฟเตอร์ช็อก เชื่อมโยงกับกรณีบิ๊กเซอร์ไพรส์ทั้งสิ้น แม้ใน        รายละเอียดของแต่ละพรรคจะต่างกัน

กล่าวสำหรับเพื่อไทยนั้น แต่เดิมโจทย์ยากอยู่แล้ว เวลานี้ยิ่งโหดมหาหินยิ่งขึ้น
เนื่องจากได้รับผลกระทบโดยตรงจากคดียุบไทยรักษาชาติ
อย่างน้อยที่สุดก็ ทำให้ยุทธศาสตร์การต่อสู้ แยกกันเดินในสนามเลือกตั้ง รวมเสียงกันเมื่อประกาศรับรองผลเลือกตั้งไปต่อไม่ได้
แต่จะถึงขั้นรุนแรงอีกระดับขั้นยิ่งกว่านั้น พังทั้งขบวนหรือไม่ ยังต้องลุ้น

Advertisement

อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยยังมีเวลา หายใจหายคอ
แรงสั่นสะเทือนจากไทยรักษาชาติ กรณีเลวร้ายที่สุด คงไม่รวดเร็ว เหมือนกรณีพรรคไทยรักษาชาติ ถึงขั้นชื่อ ผู้สมัครถูกลบออกจากสนามเลือกตั้ง แต่คงเกิดขึ้นหลังวันเลือกตั้ง 24 มีนาคม หลังวัน กกต.ประกาศรับรองผลเลือกตั้งซึ่งไม่กระทบต่อสถานภาพ ส.ส. เนื่องจากสามารถย้ายพรรค หาสังกัดใหม่ได้ภายใน 60 วันอยู่แล้ว
แต่ถึงแม้มีแนวโน้มความแน่นอนระดับหนึ่งว่า เพื่อไทยมีชื่อในสนามเลือกตั้งแต่อนาคตที่ไม่แน่นอน จากการเล่นท่ายากเดินเกมแรงพลาด
ส่งผลให้การต่อสู้ แข่งขันเผชิญหน้าระหว่าง 2 ฝ่าย รุนแรงยิ่งขึ้น
ที่ว่าแพ้ไม่ได้นั้นอาจน้อยไป เดิมพันใหม่นั้นสูงกว่าเดิมลิบลิ่ว
รบครั้งนี้ ต้องแตกหัก พังราบไปข้าง
อาฟเตอร์ช็อกจากกรณีบิ๊กเซอร์ไพรส์ 8 กุมภาฯ อนาคตเพื่อไทย-อนาคตพลังประชารัฐ แตกต่างลิบลับ

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image