สถานีคิดเลขที่ 12 : สงครามจิตวิทยา : โดย สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

ตอนนี้หลายคนคงเข้าไปย้อนฟังเพลง “หนักแผ่นดิน” ที่ค้นหาได้ไม่ยากในโลกออนไลน์ ซึ่งก็ถือว่า ผบ.ทบ.ผู้หยิบยกเพลงนี้ขึ้นมาปัดฝุ่น ได้ประสบความสำเร็จในการดึงให้ผู้คนได้หันกลับมาสนใจฟัง หลังจากที่ผลิตขึ้นมาตั้งแต่ปี 2518 แล้วเมื่อพ้นยุคสงครามคอมมิวนิสต์ เพลงปลุกใจรักชาติเพลงนี้ ก็แทบจะไม่ค่อยได้ยินได้ฟังกันอีก

คนในยุคสมัยนั้น หรือคนที่ชอบฟังเพลงแนวชาตินิยม ย้อนฟังแล้วอาจจะรู้สึกฮึกเหิมในอารมณ์ไปด้วย

แต่ถ้าเป็นคนรุ่นใหม่ที่ไม่ได้สัมผัสบรรยากาศในยุคนั้น ซึ่งก็คงรีบค้นหาเพลงนี้ด้วยความอยากรู้ แต่เมื่อฟังแล้วจะรู้สึกอย่างไร คงตอบได้ว่าฟังแล้วก็คงผ่านเลยไป เพราะไม่สอดรับกับอารมณ์ความรู้สึกของคนยุคสมัยนี้

เผลอๆ ฟังเพลงหนักแผ่นดินยังไม่ทันจบ ก็อาจจะคลิกไปฟังเพลงประเทศกูมีด้วยความครื้นเครงแทนด้วยซ้ำ

Advertisement

แต่ที่มาพร้อมๆ กันกับเพลงหนักแผ่นดิน ก็คือ การทำให้คนไทยได้ย้อนกลับไปเรียนรู้ประวัติศาสตร์บ้านเมืองในช่วงนั้นด้วย

ได้ย้อนอดีตไปดูกันว่าสงครามคอมมิวนิสต์คืออะไร และเพลงปลุกใจรักชาติ สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของสงครามจิตวิทยา ที่ควบคู่ไปกับสงครามสู้รบกับฝ่ายต่อต้านรัฐด้วยกำลังอาวุธเช่นไร

แล้วถ้าศึกษากันให้ดี จะพบตำนานปฏิบัติการจิตวิทยาของฝ่ายรัฐในสมัยนั้น ซึ่งมีเรื่องราวที่น่าตื่นตะลึงมากมาย

อย่างเช่น ไม่กี่วันก่อน มีกลุ่มคนที่หวาดผวาการเติบโตของพรรคการเมืองคนรุ่นใหม่ ที่เรียกเสียงกรี๊ดจากคนวัยหนุ่มสาวไปทั่วเมือง เกิดกรณีฟ้ารักพ่อที่กลายเป็นกระแสใหญ่

ทำให้ผู้คนที่หวาดกลัวพรรคการเมืองนี้ ถึงกับสร้างวาทกรรมว่า กำลังมีการล้างสมองคนรุ่นใหม่

คาดว่าคงหยิบคำว่าล้างสมองนี้ มาจากยุคสงครามคอมมิวนิสต์นั่นแหละ

ตอนนั้นจะมีหน่วยปฏิบัติการจิตวิทยาออกเตือนชาวบ้านตามพื้นที่ต่างๆ ออกนิตยสาร ออกเอกสาร สร้างภาพคอมมิวนิสต์เป็นภูตผีปีศาจ และให้ระวังจะโดนพวกนี้ล้างสมอง

ระวังคอมมินิสต์ล้างสมอง ใช้กันมากในสมัยโน้น

ไม่ใช่แค่ล้างสมองเท่านั้น

ต่อมาในช่วงที่มียุทธการสู้รบกันหนัก มีการสร้างกระแส ให้ระวังคอมมิวนิสต์จับคนไปดูดเลือด โดยจะดักจับคนขึ้นรถตู้แล้วดูดเอาเลือดใส่ถุง เพื่อไปให้พรรคพวกที่กำลังสู้รบและสูญเสียหนัก

จนทำเอานักศึกษาแพทย์ในยุคนั้น ต้องออกมาทำความเข้าใจกับประชาชนว่าอย่าไปกลัวในเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะการดูดเลือดคนเพื่อเอาไปใช้กับคนบาดเจ็บ ต้องทำกันในแล็ป
อย่างดีเท่านั้น

อีกเรื่องที่สร้างกระแสจนหนุ่มๆ ผวาหนักมากๆ ผวากันไปทั้งประเทศ ในช่วงที่สหรัฐตั้งฐานทัพในไทยแล้วส่งกำลังไปรบกับคอมมิวนิสต์เวียดนาม ลาว กัมพูชา

มีการออกข่าวให้ระวังหน่วยแซปเปอร์ สายลับอันตรายของพวกเวียดกง

พวกนี้จะใช้ยาใส่ในอาหารต่างๆ หรือมาในรูปแบบสาวขายบริการ ใครไปโดนยานี้เข้าจะเกิดอาการจู๋หด ทำนองว่าทำเพื่อให้คนไทยสูญพันธุ์อะไรทำนองนั้น

ยังมีอีกหลายตำนานพิลึกพิลั่นในช่วงสงครามจิตวิทยารบกับคอมมิวนิสต์ ยุคที่เพลงหนักแผ่นดินดังกระหึ่มนั่นแหละ

เมื่อมีโอกาสได้ย้อนอดีตไปเรียนรู้ ก็ควรได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ด้วยว่า ในที่สุดแล้วสงครามยุคคอมมิวนิสต์จบลง ไม่ได้ด้วยชัยชนะในการสู้รบ

แต่ด้วยการเจรจา ใช้สันติวิธีเข้าไปยุติความขัดแย้งทางความคิดอุดมการณ์นั่นเอง

สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image