ผู้เขียน | นฤตย์ เสกธีระ |
---|
เห็นภาพคนไทยออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมาแล้วปลื้มใจ
ความจริงก่อนหน้านี้เมื่อมีข่าวว่าคนไทยในต่างประเทศแห่กันไปใช้สิทธิล่วงหน้าก็ส่งสัญญาณมาให้เห็นแล้ว
พอถึงวันที่ 17 มีนาคม คนไทยกว่า 2 ล้านคน ที่ลงทะเบียนใช้สิทธิล่วงหน้าไว้ก็ออกมากาบัตรกันอย่างถล่มทลาย
และคาดว่าวันที่ 24 มีนาคมนี้ คนไทยอีกหลายสิบล้านคนที่เหลือจะออกจากบ้านไปเข้าคูหาเช่นกัน
เห็นคนไปเลือกคึกคักกันอย่างนี้ เชื่อว่าคนถูกเลือกคือบรรดาผู้สมัคร ส.ส.ทั้งหลายคงคึกคักขึ้นมาอีกมาก
ที่ผ่านมาพรรคการเมืองต่างๆ ได้คิกออฟนโยบายหาเสียงกันยกใหญ่
ระยะหลังๆ นี้หลายพรรคลืมคำว่า “ประชานิยม” ที่เคยตั้งข้อรังเกียจไปกันแล้ว
นโยบายแบบลดแลกแจกแถมกลายเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ส่งไปถึงประชาชน
จนกระทั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีออกสารมาติดดิสก์เบรก
เกรงว่ารัฐบาลจะมีเงินไม่เพียงพอ
ความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์กับนโยบายหาเสียงเช่นนี้น่าสนใจ เพราะปกติแล้วคนที่เป็นแคนดิเดตนายกฯ จะสนับสนุนนโยบายพรรคการเมือง
แต่ พล.อ.ประยุทธ์ที่เป็นแคนดิเดตนายกฯ กลับไม่สนับสนุน
พล.อ.ประยุทธ์แสดงความเห็นครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก
ก่อนหน้านี้ไม่นาน พล.อ.ประยุทธ์ก็เคยออกอาการไม่เห็นด้วยกับนโยบายกัญชาเสรีจนเกิดวิวาทะทางการเมืองขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง
นอกจากนี้ ยังมี “ความเห็น” ที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายพรรคการเมือง อาทิ นโยบาย ส.ป.ก.
ความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์เช่นนี้น่าสนใจ เพราะในบรรดาแคนดิเดตนายกฯทั้งหมด พล.อ.ประยุทธ์นี่แหละที่เป็นเบอร์ 1
แล้วพรรคการเมืองที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯก็มีชัดเจน
ชัดเจนพอๆ กับพรรคที่ไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์
และที่สำคัญก็คือในบรรดาพรรคการเมืองที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯนั้น พล.อ.ประยุทธ์เคยแสดงเจตนาชัด
ชัดว่าไม่เห็นด้วยกับนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองนั้นในบางเรื่อง
แล้วนี่ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ได้เป็นนายกฯขึ้นมา แล้วจะทำอย่างไรหากรัฐบาลทำตามนโยบายที่พรรคการเมืองหาเสียงเอาไว้ในช่วงนี้ไม่ได้
ข้ออ้างว่ารัฐบาลมีเงินไม่เพียงพอจะฟังขึ้นไหมสำหรับการละทิ้งคำมั่นสัญญา
ข้ออ้างว่าเป็นรัฐบาลผสมหลายพรรคจะฟังขึ้นไหมกับการไม่ทำตามนโยบายที่หาเสียงได้หรือเปล่า
และที่สำคัญถ้านโยบายนั้นๆ นายกรัฐมนตรีไม่เห็นด้วย
ระหว่างนายกฯผู้มีอำนาจ กับคำมั่นที่สัญญาไว้กับประชาชน คิดว่ารัฐบาลจะเลือกฝ่ายไหน
ทุกอย่างควรทำให้ชัดเจนในช่วงโค้งสุดท้าย
ทำให้ประชาชนมั่นใจว่าจะไม่ถูกหลอก
เลือกพรรคไหน เพราะชอบใจในนโยบายอะไรไปแล้ว
ก็หวังจะได้เห็นนโยบายนั้นๆ เป็นรูปธรรมในรัฐบาลหน้า
ไม่อยากฟังคำแก้ตัวสารพัดเหตุผล
เพียงเพื่อจะบอกว่านโยบายที่หาเสียงนั้น ทำตามที่พูดไม่ได้