สถานีคิดเลขที่12 : อีเวนต์ใหญ่กกต. : โดย จำลอง ดอกปิก

การคำนวณ-จัดสรรที่นั่ง ส.ส.ระบบปาร์ตี้ลิสต์ 150 เก้าอี้ ให้กับพรรคการเมือง

เป็นอำนาจหน้าที่ กกต. มีตัวบทกฎหมายรองรับไว้แน่นอน อย่างมิต้องสงสัย

การที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ ไม่รับเรื่องไว้วินิจฉัย เนื่องจาก กกต.ไม่สามารถใช้สิทธิยื่นต่อศาลตามรัฐธรรมนูญได้

การที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 7:2 ไม่รับเรื่องไว้วินิจฉัยว่า กกต.จะสามารถคำนวณหาจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 218 ได้หรือไม่ และชอบด้วยรัฐธรรมนูญมาตรา 91 หรือไม่

Advertisement

ศาลระบุเหตุผลชัดเจนว่า เรื่องนี้ เป็นหน้าที่และอำนาจของ กกต.

แต่ปัญหาก็คือ กกต.ไม่มั่นใจ

ไม่ใช่ไม่รู้ว่า เป็นหน้าที่ เป็นอำนาจเด็ดขาด

ที่ต้องการคือหลักประกันว่า ที่คำนวณ ถอดสูตรออกมา โดยสำนักงาน กกต. มีพรรคเล็ก พรรคน้อย คะแนนต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลาง 71,065 คะแนน มีเก้าอี้รองนั่ง 1 ที่ 25 พรรคการเมืองนั้นถูกต้องแล้ว

ไม่อยากให้มีปัญหา คดีความตามมาภายหลัง

เนื่องจากสูตรที่ว่ามีสูตรเดียวเท่านั้น กกต.-ฝ่ายการเมือง-นักวิชาการ กลับคิดออกมาไม่เหมือนกัน

พรรคการเมืองขนาดใหญ่-นักวิชาการ แย้งว่า สูตรสำนักงาน กกต.นั้น ‘ผิด’

ทั้งที่อาจถูกก็ได้

แต่ กกต.ก็ไม่กล้ายืนยัน ไม่กล้าแม้แต่ตั้งโต๊ะแถลงข่าว เปิดให้ซักไซ้ เพื่อให้เกิดความกระจ่าง

กกต.ตกอยู่ในสภาพไม่ต่างจาก ป.ป.ช. และองค์กรอิสระอื่นๆ

แม้เป็นองค์กรอิสระ แต่การดำเนินการ ตัดสิน ยุติปัญหาตามอำนาจหน้าที่ ถูกตั้งคำถาม ข้อสงสัย แฝงวาระการเมือง

มองโดยหลักของการต่อสู้ขับเคี่ยวระหว่าง 2 ฝ่าย ในภาวะที่บ้านเมือง ขัดแย้งรุนแรง แบ่งขั้วชัด

การตัดสินชี้ขาดเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แน่นอนว่า ย่อมมีฝ่ายได้และฝ่ายเสีย

ฝ่ายเสียก็ย่อมต้องไม่พอใจ มองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม

ตรงข้ามกับฝ่ายได้ เป็นเรื่องธรรมดา

แต่ที่ไม่ธรรมดา คือบรรดาเหตุผลในคำตัดสิน ที่ไม่ใช่เรื่องอารมณ์-ความรู้สึก

หากแค่เป็นเรื่องบรรทัดฐาน

เปรียบเทียบเรื่องทำนองลักษณะความผิดเดียวกัน แต่ผลคดีของแต่ละฝ่ายกลับออกมาไม่เหมือนกัน

หรือที่เรียกว่าสองมาตรฐาน

จะโดยที่มาของ กกต.ก็ดี จากร่องรอย การกระทำต่างๆ หรือปมใดก็ตามแต่

ไม่ยอมรับ ก็ต้องรับว่า กกต.ถูกมอง ถูกกล่าวหา ถูกจัดอยู่ในบัญชีอิสระแต่ในนาม

ต้องแบกรับภาระพิสูจน์ตน

ในภารกิจใหญ่จัดเลือกตั้งทั่วไป คุมเลือกตั้งให้เสรีเป็นธรรม ที่ผู้คนฝากความหวัง

แต่คาดหวังมากก็ผิดหวัง

แค่เริ่มต้น ก็ให้รู้สึกแปลกแปร่ง จากที่เคยแถลง จะประกาศผลนับคะแนนเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการได้อย่างช้า 3-4 ทุ่ม นับจากปิดหีบเลือกตั้ง 5 โมงเย็น วันที่ 24 มีนาคม

ก็กลายเป็นข้ามไปอีก 4 วัน

กว่าแถลงได้ก็ปาเข้าไป 28 มีนาคม ระหว่างนั้นมีทั้งรายการบัตรเขย่ง คำถามถึงจำนวนผู้ใช้สิทธิงอกเพิ่ม 4 ล้าน มีบัตรเกินผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ฯลฯ

มีเรื่องที่ตอบได้กระจ่าง มีทั้งเรื่องคลุมเครือ

จากแค่คลางแคลงใจ กลายเป็นไม่เชื่อถือ

ไม่เชื่อว่า จะดำเนินการในเรื่องที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ อย่างตรงไปตรงมา

อันที่จริง สูตรคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์โดยสำนักงาน กกต. อาจถูกก็ได้ ดำเนินการไปโดยสุจริต ไม่มีนอกใน ใบสั่ง

แต่นักการเมือง ฝ่ายวิชาการ ประชาชนผู้มีส่วนได้เสีย เห็นร่องรอยบางสิ่งบางอย่างแล้ว ไม่ไว้วางใจ

งานใหญ่ของ กกต.จึงมิใช่ ต้องถอดสูตรคำนวณให้ถูกต้องตรงกฎหมายอย่างเดียว

หากแต่ยังต้องเร่งฟื้นศรัทธา สลัดภาพองค์กรล้มละลาย ความน่าเชื่อถือให้ได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image