สถานีคิดเลขที่12 : อวยพร กกต. : โดย นฤตย์ เสกธีระ

ตอนที่มีข่าวการสรรหา กกต. นึกว่าทำงานสบายๆ เพราะมีคนสนใจสมัครเป็น กกต.กันเพียบ

แต่พอมาเห็นสภาพ กกต. ตอนนี้แล้วต้องขอบอกว่า เห็นใจ

การจัดการเลือกตั้งตามกฎกติกาใหม่ภายใต้แรงกดดันของการแข่งขัน 2 ขั้วนี่ทำให้ กกต.ตกอยู่ในสภาพถดถอย

นับตั้งแต่กระบวนการประสานงานเรื่องบัตรเลือกตั้งที่ประเทศนิวซีแลนด์ที่บินมาสมทบไม่ทัน

Advertisement

กลายเป็นประเด็นแรกๆ ของการวิพากษ์วิจารณ์

และหลังจากนั้น กกต.ก็กลายเป็น “ตำบลกระสุนตก” อยู่ทุกวี่วัน

การประกาศผลการเลือกตั้งล่าช้ากลายเป็นข้อน่าสงสัย จนมีการเรียกร้อง

Advertisement

ทวงถามและร้องขอให้ กกต.เปิดเผยคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.เขตทุกหน่วย

นี่ยังไม่รวมข้อกังขาเกี่ยวกับสูตรการคำนวณ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อที่มีเรื่องมีราวจนถึงผู้ตรวจการแผ่นดินส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

ประเด็นเรื่องการคำนวณที่มีปัญหาการตีความเกี่ยวกับ “ส.ส.ที่พึงมี”

ตีความไปตีความมากลายเป็นว่า พรรคที่มีคะแนนต่ำกว่า 71,000 เสียงก็จะได้ ส.ส.ด้วย

ขณะนี้ได้รับคำยืนยันว่า เรื่องวิธีการคำนวณ กกต. 7 คนจะได้ฤกษ์พิจารณาว่าจะใช้วิธีคำนวณแบบไหน

ข่าวแจ้งว่ามี 3 แบบ ทั้งแบบที่พรรคเล็กได้ ส.ส. และแบบที่พรรคเล็กไม่ได้

เรื่องนี้ต้องคอยสดับฟังมติ กกต.

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการกล่าวหานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กรณีถือหุ้นสื่อ

กรณีดังกล่าวกลายเป็นประเด็นที่เฝ้าจับตามอง 2 ประการ

ประการแรก คือผิดหรือไม่ผิด ประการที่สอง คือจะผิดเหมือนกันทั้ง 2 ขั้วไหม

เรื่องนี้ก็ต้องฟังมติ กกต.เช่นกัน

ปรากฏการณ์ล่าสุด คือ การนับคะแนน ส.ส.ที่นครปฐมเขต 1 ซึ่งเดิมผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ชนะ

แต่ผู้สมัครจากพรรคอนาคตใหม่แคลงใจ เนื่องจากตัวเองติดตามและนับคะแนนแล้ว ตัวเองน่าจะชนะ

ในที่สุด กกต.เปิดโอกาสให้อีกครั้ง โดยให้นับคะแนนใหม่

ผลปรากฏว่า ระหว่างนับคะแนนไฟฟ้าดับ 30 วินาที

ผลการนับคะแนนครั้งแรกบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์ชนะ 4 คะแนน

ต่อมามีการยืนยันว่า พรรคอนาคตใหม่ชนะ 62 คะแนน

พอเช้า กกต.ประกาศผล พรรคประชาธิปัตย์กลับมาเป็นผู้ชนะ

ผลการนับคะแนนเช่นนี้ เขย่าความน่าเชื่อถือของ กกต. และเจ้าหน้าที่ที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง

นี่ยังไม่รวมกับข้อสงสัยว่า กกต.จะประกาศผลเลือกตั้งให้ทันวันที่ 9 พฤษภาคมหรือไม่ เพราะหากประกาศผลรับรองการเลือกตั้งไม่ทันกำหนด อาจทำให้รัฐบาลจากการเลือกตั้งเกิดขึ้นไม่ได้

และผู้ที่ต้องรับผิดชอบหนีไม่พ้น กกต. ในฐานะผู้จัดการเลือกตั้ง

ดูเหมือนว่า ณ เวลานี้ ทุกเรื่องทุกราวกำลังโหมกระหน่ำเข้าใส่ กกต. จนรู้สึกเห็นใจ

และอยากให้กำลังใจ กกต.ที่กำลังทำงาน

ขอให้ใช้ “สุจริตและเที่ยงธรรม” เป็นคาถาคุ้มกัน

ขอให้ยึดนิติรัฐนิติธรรมเป็นหลักคุ้มครองการทำหน้าที่

ขอให้เรื่องวุ่นๆ คลี่คลาย และเปลี่ยนเสียงครหาให้กลับกลายเป็นเสียงยกย่องสรรเสริญโดยเร็ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image