| ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
|---|
การเปลี่ยนผ่าน-แปรรูปรัฐบาลจากการรัฐประหารเป็น รัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง
แค่เริ่มกระบวนการสับสวิตช์ เปลี่ยนผ่านก็ส่อเค้ามีปัญหา
ไม่ต้องพูดถึงความชอบธรรม การเข้าสู่ตำแหน่งในระบอบประชาธิปไตยก็ได้
บทเฉพาะกาล วาระการเมืองเฉพาะกิจ บอกคำตอบชัดในตัวอยู่แล้ว
เอาแค่เล่นตามกติกา ที่คณะกรรมการที่ คสช.แต่งตั้งขึ้นดีไซน์ ก็สารพัดยุ่ง
อย่าง กกต.ประกาศรับรองผลเลือกตั้ง ส.ส.แล้ว ทุกอย่างยุติ มีผลในทางกฎหมายก็จริง
แต่ในทางการเมืองไม่จบสิ้นกระแสความ
เกิดเป็นคำถาม ที่ถูกต้องแท้จริงนั้นไซร้ ควรจัดสรรเก้าอี้ปาร์ตี้ลิสต์ให้กับพรรคการเมืองอย่างไร
พรรคที่ได้คะแนนต่ำกว่า คะแนนเฉลี่ยกลาง อันเป็นพื้นฐาน ของ ส.ส.พึงมีพึงได้ 1 ที่นั่งนั้น ควรได้หรือไม่
เรื่องนี้ส่งผลได้-ผลเสีย ไม่เฉพาะต่อพรรคการเมืองเท่านั้น ยังกระทบต่อสิทธิ ต่อเสียงประชาชน ที่ไปลงคะแนนเลือกตั้งด้วย
แต่แม้เรื่องเลือกตั้งจบ ประกาศผลครบ เสียงวิพากษ์วิจารณ์ กกต.กระหึ่มดัง อาจค่อยๆ เลือนหาย และท้ายที่สุด การฟ้องร้อง กกต. ของพรรคการเมืองที่จะเกิดขึ้นในลำดับถัดไป ก็คงทำนายทิศทางได้ไม่ยากว่า ผลจะออกมาอย่างไร
ปัญหาหนึ่งอาจจบไป
แต่ค่าที่ต้องจ่ายมหาศาลนั้น คุ้มหรือไม่ กับการนำมาแก้ไขสิ่งซึ่งแก้ไม่ได้
โดยเฉพาะการแก้ผลการเลือกตั้ง คำพิพากษาประชาชน
เนื่องจากประชาชนได้ตัดสินแล้ว
การคำนวณ อาจช่วยเพิ่ม-ลด ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ระหว่าง 2 ขั้วได้บ้าง การลด การเพิ่มนั้น มีความหมาย ปฏิเสธไม่ได้แน่นอน
แต่การใช้เทคนิค ก็ไม่อาจลบล้างผลการเลือกตั้งใหญ่ พรรคใดชนะ พรรคใดได้ลำดับรอง สอง สาม สี่
ประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งตัดสินไปแล้ว
แต่โดยที่ กติกาให้ความสำคัญกับการรวบรวมเสียงเป็นหลัก เมื่อไม่มีพรรคใดชนะเบ็ดเสร็จเด็ดขาดพรรคเดียว
ก็ย่อมเป็นสิทธิอันชอบธรรม ของทั้งพลังประชารัฐ และเพื่อไทย ที่จะรวบรวมเสียง เพื่อให้เป็นฝ่ายข้างมาก
เสียงที่ปริ่มน้ำ กระทบต่อเสถียรภาพ และการดำรงอยู่
วิธีพื้นฐานการแก้ไขเสียงไม่พอ ก็คือการรวบรวมเสียงให้ได้จำนวนเสียงที่เพิ่มมากขึ้น โดยถูกต้อง ชอบธรรม
หากไม่คำนึงถึงวิธีการได้มา จะยิ่งกัดกร่อนทำลาย
จริงอยู่จำนวนเสียงนั้นสำคัญมาก ในระบบการปกครองที่ใช้เสียงข้างมากเป็นเกณฑ์ ชี้วัดตัดสิน นับแต่ยกแรกโหวตเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในที่ประชุมรัฐสภาอาจมีตัวช่วย ส.ว.แต่งตั้ง แต่หากเสียงในสภาล่างไม่ถึงครึ่งหนึ่ง ในทางการเมืองอาจมีปัญหา
แต่ต่อให้รัฐบาลมีจำนวนเสียงมากท่วมท้น โหวตกี่ครั้งก็ชนะก็ตาม
หากไม่มีวัคซีนความชอบธรรมคุ้มกันก่อร่างจากสูตรพิสดาร และวิธีการใดที่เคยใช้ในอดีต เสียงมากมายเหล่านั้นก็ช่วยอะไรไม่ได้
เสียงที่พ้นจากน้ำ อาจทำให้หายใจได้คล่องบางชั่วยาม แต่ก็มิได้เป็นหลักประกัน ว่าจะไปได้ตลอดรอดฝั่ง
เสียงปริ่มน้ำที่มีที่มาชอบธรรม ยังเป็นเสาค้ำพึ่งพิงได้มากกว่าด้วยซ้ำ
