สถานีคิดเลขที่ 12 : ไม่ใช่ของตาย : โดย สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

สถานะของพรรคประชาธิปัตย์ที่กล่าวกันว่าเป็นตัวแปรสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาลนั้น เป็นความจริงแท้แน่นอน เห็นได้จากหลังผลการโหวตเลือกหัวหน้าพรรค เมื่อจบด้วยชัยชนะของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ว่ากันว่าทำให้การจับขั้วตั้งรัฐบาล มีความยุ่งยากขึ้นมาอย่างมากทันที
พูดให้ชัดขึ้นก็ต้องบอกว่า ถ้าหาก นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ได้เป็นหัวหน้าพรรค เท่ากับว่าการตั้งรัฐบาลจบในวันนั้นทันที

นายกรัฐมนตรีคนต่อไปชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แน่นอน

แต่พอคนชนะชื่อจุรินทร์ คงทำให้ผู้จัดการรัฐบาลขั้วพลังประชารัฐ ต้องเริ่มกุมขมับ

ขณะที่ขั้วพรรคเพื่อไทย อนาคตใหม่ ก็ถอนใจโล่งอกไปพร้อมๆ กัน

Advertisement

เพราะประชาธิปัตย์ยุคจุรินทร์ หมายถึงมี ชวน หลีกภัย บัญญัติ บรรทัดฐาน ยืนค้ำอยู่ข้างหลัง จะมีความเป็นตัวของตัวเองสูง

ไม่ใช่ของง่าย ไม่ใช่ของตาย สำหรับขั้วผู้มีอำนาจ

อีกทั้งเมื่อย้อนดูบรรยากาศการเฟ้นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แม้ผู้ลงชิงจะมี 4 ราย แต่ช่วงโค้งสุดท้ายชัดเจนว่า มีแค่นายจุรินทร์กับนายพีระพันธุ์เท่านั้น ที่เป็นคู่ชิงตัวจริง

Advertisement

เปรียบได้ว่า เป็นการแข่งขันระหว่างขั้วสายกลาง กับขั้วที่เอียงพลังประชารัฐ และ กปปส.

แถมในระหว่างช่วงหาเสียงหาคะแนน มีการเคลื่อนไหวใช้พละกำลังกันหนักหน่วงมาก

จับสัญญาณได้จากคำกล่าวของนายชวน หลีกภัย ก่อนถึงวันดีเดย์เลือกหัวหน้าพรรคที่ระบุว่า มีความเป็นห่วงปัจจัยภายนอกเข้ามาครอบงำและชี้นำพรรค

บ่งบอกว่า ศึกนี้ไม่ธรรมดา กว่านายจุรินทร์จะเอาชนะได้ก็เหน็ดเหนื่อยไม่น้อย คงต้องสู้กับปัจจัยภายนอกที่จะเข้ามาครอบงำและชี้นำพรรค ดังที่นายชวนกล่าวถึงนั่นเอง

ประเด็นสู้กันแรงนี้ ยังอาจจะส่งผลต่อการกำหนดทิศทางร่วมหรือไม่ร่วมกับขั้วไหนอีกด้วย

แน่นอนว่า ที่คนทั้งประเทศเฝ้าจับตาประชาธิปัตย์อยู่ คือจะเดินไปทางไหนในการจัดตั้งรัฐบาล

พอเป็นยุคจุรินทร์ ก็คงกลับมาตั้งหลักให้มั่น มีความละเอียดรอบคอบมากขึ้น ไม่ต้องร้อนรนอยากจะเข้าร่วมรัฐบาลกับบางขั้วเสียให้ได้

ที่สำคัญ ภารกิจใหญ่ของหัวหน้าพรรคใหม่ คือการฟื้นศรัทธาของชาวบ้าน เลือกตั้งหนหน้าซึ่งน่าจะอีกไม่นานด้วยซ้ำ เดิมพันสูงทีเดียว ต้องได้จำนวน ส.ส.ที่พ้นจากการเป็นพรรคแค่ครึ่งร้อยให้ได้

การเข้าร่วมหรือไม่ร่วมกับรัฐบาล หรือเลือกขั้วไหน ต้องมีคำตอบในเรื่องชื่อเสียง อุดมการณ์ประชาธิปไตยด้วย

จะเข้ากับขั้วไหน หรือไม่เข้าขั้วใครเลย เป็นฝ่ายค้านอิสระ ต้องมีประเด็นการได้คะแนนชื่นชมจากประชาชนส่วนใหญ่ เป็นเครื่องกำกับที่สำคัญ

คงต้องรู้ตัวดีว่า ถ้าไปเป็นเพียงพรรคตัวประกอบ เป็นกลีบกุหลาบบนทางเดินสู่อำนาจของใครบางคน

งวดหน้าอาจจะตกฮวบลงไปอีก เหลือครึ่งของครึ่งร้อยก็ได้

เท่ากับว่า ประชาธิปัตย์ยุคจุรินทร์ต้องคิดมากคิดหนักคิดหลายทาง ก่อนตัดสินใจจับมือกับใคร

ย่อมทำให้ผู้ที่กำลังเจรจาจัดตั้งรัฐบาลก็ต้องปวดขมับยากลำบากมากขึ้นด้วยเช่นกัน

สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image