สถานีคิดเลขที่12 : ปัจจัยเสี่ยงรบ.251เสียง : โดย จำลอง ดอกปิก

หนังคนละม้วน

ก่อนโหวตเลือกนายกฯ พรรคประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย อำนาจต่อรองเหนือกว่าพลังประชารัฐ

แม้เสียงพรรคพันธมิตรเหนียวแน่น บวกรวมกับ 250 ส.ว.มากพอ หนุนส่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

แต่ทว่า ยังต้องพึ่งพาจำนวน ส.ส. 2 พรรค เพื่อให้ได้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร

Advertisement

เพื่อความชอบธรรมในการเข้าสู่ตำแหน่ง

กระทรวงเกรดเอ งบต่อปีนับแสนล้าน-เมกะโปรเจ็กต์โครงสร้างพื้นฐานอีกก้อนมหึมา ทั้งกระทรวงเกษตรฯ คมนาคม ถูกจับจอง ยึดผ่านดีล บายพาส ตามข้อตกลงกับบิ๊กสายพราง แลกเสียงโหวตสนับสนุนนายกฯ

แต่ทว่าอำนาจแท้จริง ยังอยู่ที่บิ๊กตู่

วันนี้เราจึงได้เห็นหนังอีกม้วน

ผู้กำกับการแสดงตัวจริงขยับ เขียนสคริปต์ สั่งคัต ตัดบทเก่าทิ้ง

แต่ก็มิได้ถึงขั้นบู๊ ล้างผลาญ เป็นการไม่รับรู้การดีลที่ผ่านมา โดยขอพิจารณาใหม่บนพื้นฐานของงานการเมือง การบริหาร

กระทรวงเศรษฐกิจสำคัญ ต้องอยู่ในมือพรรคแกนนำ เพื่อให้มีเอกภาพในการบริหาร ขับเคลื่อนนโยบายไปสู่ภาคปฏิบัติ ยกระดับเศรษฐกิจ พัฒนาประเทศไทย

วันนี้อำนาจอยู่ในมือบิ๊กตู่

การโหวตให้ความเห็นชอบหัวหน้า คสช.ขึ้นเป็นนายกฯ ได้พลิกเปลี่ยนอำนาจต่อรอง

ปัจจุบันขณะ บิ๊กตู่-พลังประชารัฐ ถือไพ่เหนือกว่า

แต่ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ก็มิได้อ่อนหัดการเมือง 2 พรรคเจนจัด เชี่ยวชาญ

จึงได้พยายามปิดดีลก่อน 5 มิถุนาฯ

เพียงแต่ว่า ไม่ได้ต่อสายผ่าน อุตตม สาวนายน สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์

ทั้งยังไม่ใช่ข้อตกลงยกกระทรวงให้โดย พล.อ.ประยุทธ์ แต่เป็นทหารท่านอื่น

เมื่อไม่ใช่เอ็มโอยูที่มีสภาพบังคับ อีกทั้งที่จริง หัวหน้าฝ่ายบริหารก็มีสิทธิ มีความชอบธรรมที่จะทักท้วง ทบทวน จัดวางคนในตำแหน่งต่างๆ

วันนี้ดีลลับจึงเสี่ยงถูกฉีก ยึดคืน 2 เก้าอี้หลัก

กระนั้น 2 พรรค ใช่ว่าหมดสิ้นซึ่งอำนาจต่อรอง

ทั้งนี้ ไม่ว่าเดินเดี่ยว แพคคู่ 53 เสียง-51 ส.ส.ทรงความหมายมาก

มองจากความเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก ณ 251 เสียง น่าหวาดเสียวเป็นที่ยิ่ง

251 เสียงนี้ มิได้จบสิ้นภารกิจแค่โหวตเลือกนายกฯเท่านั้น หากแต่ยังมีงานการเมือง กอดคอเป็นเสียงข้างมากต่อไป

ไม่ให้พ่ายแพ้ในสภา อันจะมีผลสะเทือนตั้งแต่ระดับย่อมๆ ไปจนถึงรัฐบาลอยู่ไม่ได้

การรื้อโควต้า ยึดคืน 2 เก้าอี้ใหญ่จาก 2 พรรค จึงอาจเป็นปัญหา

ก่อรอยปริร้าว ที่อาจนำไปสู่การบั่นทอนอายุขัยของรัฐบาลในลำดับถัดไป

เพราะแม้ 2 พรรค ดีลผ่านช่องทางพิเศษ แต่ก็เป็นผู้มีอำนาจในกลุ่มขบวนเดียวกัน นั่นคือเป็นสมาชิกวีไอพี คสช.

จึงพอมีเหตุมีผลที่พอรับฟังได้

แต่อย่าได้ห่วงว่า รัฐบาลจะแตก ตั้งแต่ยังไม่ทันได้ตั้ง

เพราะการเมืองเป็นเรื่องของผลประโยชน์

ทั้งในเชิงทฤษฎีรัฐศาสตร์ และที่ตีความคำหมาย ผลประโยชน์ (ใคร) แบบไทยๆ

จึงไม่ว่าพรรคใด ก็ย่อมหลีกเลี่ยง จำกัดเพดานความขัดแย้งให้อยู่ในระดับเหมาะสม

ไม่เล่นกันรุนแรง-แตกหัก ทุบหม้อข้าวหรอก

หากแต่จะใช้วิธีต่อรอง ยื่นเงื่อนไขสูงสุดไว้ก่อน จากนั้นค่อยๆ ลดลงมา ให้บรรจบกันในที่สุด ในลักษณะถ้อยทีถ้อยอาศัย

แต่โดยที่รัฐบาล เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยมาก

ใครต่อใครทำนาย ไปได้ไม่ไกล

การแบ่งเค้กเที่ยวนี้ไม่มีใครได้หมด เสียหมด จบได้

แต่การต่อรองอย่างนี้ คงจะเกิด-มีให้เห็นอีกเป็นแน่ ทั้งเรื่องการผลักดันงานหาเสียงตามนโยบาย งบประมาณ โครงการ งานประมูลจัดซื้อจัดจ้าง สารพัดเรื่องสตุ้งสตางค์ทั้งหลาย

นักการเมือง พรรคการเมือง คงไม่ยอมหงออยู่ในแถว

โจทย์ยุ่ง-งานยาก ของการบริหารจัดการในภาวะเสียงปริ่มน้ำ ก็คือ หากมุ่งไปที่การอยู่ได้เป็นหลัก ไม่คำนึงถึงความเสียหาย จากการแสวงหาของฝ่ายการเมือง ต้องควักงบ ไฟเขียวโครงการ ฯลฯ เป็นค่าใช้จ่ายหล่อเลี้ยงเสียงรัฐบาล

ที่คิดว่าถ้าพรรคร่วมไม่แตกแถวจะอยู่ได้ เอาเข้าจริงก็ไม่แน่

เสียงมากล้น ฝ่ายตรวจสอบในสภาโค่นไม่ลง ยังล้ม พังพาบมาแล้ว นักต่อนัก

เนื่องจากเกิดวิกฤตศรัทธา ประชาชนไม่ไว้วางใจ

รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ จึงมีความเสี่ยงเพลี่ยงพล้ำสูง

นอกจากบริหารเสียง บริหารราชการแผ่นดินให้ดี ยังต้องบริหาร อารมณ์ความรู้สึกของประชาชนด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image