สถานีคิดเลขที่12 : สัญญาณไม่ดี โดย วรศักดิ์ ประยูรศุข

ถือว่าเป็นฉากการเมืองที่พีคเอามากๆ กับกรณีที่กลุ่มสามมิตรออกมาแถลงข่าวไล่เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ

ด้วยสาเหตุจากความ “ไม่ลงตัว” ในการจัด ครม.

ตอนที่สามมิตรออกมาแถลงในบรรยากาศไฟลุกนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพิ่งออกสารมาขอโทษประชาชน พร้อมกับปรารภว่า ไม่อยากจะให้การเมืองวุ่นวาย จนต้องไปใช้วิธีแก้ “แบบเดิม” อีก

เลยกลายเป็นการสวนหมัดระหว่างมุ้งในพรรครัฐบาล กับหัวหน้ารัฐบาล ซึ่งเป็นภาพที่ดูไม่ค่อย “ปฏิรูป” สักเท่าไหร่

Advertisement

ขณะที่คำว่า “แบบเดิม” ที่นายกฯระบุในสาร ก็ชวนให้คิดว่า หมายถึงอะไร จะหมายถึงการขู่ล้มกระดานอีกหรือ ทั้งๆ ที่เพิ่งล้มไป 5 ปี ยังไม่ทันหายมึนกันเลย

ก็เข้าใจได้ว่า วันรุ่งขึ้นหลังจากกลุ่มสามมิตรทิ้งระเบิดสวนคำแถลงของนายกฯ จึงเกิดการแถลงอีกรอบ

คราวนี้ นายอุตตม สาวนายน หน.พรรค นำทีมหัวหน้ามุ้งมาแถลงร่วม ซึ่งหัวหน้ากลุ่มสามมิตรประกาศเลิกงอแง เลิกงอน ตำแหน่งต่างๆ ให้เป็นเรื่องของนายกฯ

Advertisement

นั่นคือเหตุการณ์เมื่อวันจันทร์ อังคารที่ผ่านมา ส่วนวันพุธมีกระแสข่าวว่า รายชื่อ ครม.ผ่านขั้นตอนตรวจสอบเรียบร้อย น่าจะปิดหีบ ยุติการต่อรองแล้ว ไปสู่อีกขั้นตอน

หากรายชื่อประกาศออกมา นายกฯ นำ ครม.ใหม่เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ จากนั้นภายใน 15 วัน ครม. ต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยไม่มีการลงมติ

การแถลงที่ว่า ต้องเป็นไปตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญ สอดคล้องกับหน้าที่ของรัฐ แนวนโยบายแห่งรัฐ และยุทธศาสตร์ชาติ และต้องชี้แจงแหล่งที่มาของรายได้ที่จะนํามาใช้จ่ายในการดําเนินนโยบายด้วย

เป็นครั้งแรก ที่รัฐธรรมนูญวางกรอบเรื่องนโยบายของรัฐบาลไว้แบบนี้ ก็ต้องรอฟังการประชุมสภากันว่า จะแถลงกันแบบไหน แล้ว ส.ส.-ส.ว.จะอภิปรายกันแบบไหนยังไง

และหลังจากนายกฯนำ ครม.เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณแล้ว เท่ากับรัฐบาลใหม่เข้าทำหน้าที่ มาตรา 44 ที่ใช้งานมาอย่างโชกโชน 5 ปีเศษ ก็จะสิ้นสภาพไปด้วย

เรียกว่ารูปโฉมการเมืองจะเปลี่ยนแปลงไปอีกในเดือน ก.ค.นี้

ความวุ่นวายชุลมุนที่เกิดขึ้นในพรรคแกนนำรัฐบาล ระหว่างจัด ครม. ที่เพื่อนสื่อบางฉบับเรียกว่า “แย่งชามข้าว” นั้น เป็นยิ่งกว่า “สัญญาณลบ” ของรัฐบาลใหม่

จะเห็นว่า ฝ่ายรัฐบาลเอง แสดงความห่วงใยอย่างเปิดเผยในเรื่องเสียงที่ปริ่มน้ำ และปัญหาเอกภาพของ ครม.ใหม่

กลับมาเป็นนายกฯรอบนี้ แนวรบที่ “บิ๊กตู่” ต้องระวัง ไม่ใช่ฝ่ายค้าน หรือพรรคอะไรที่วาดภาพกันน่าเกลียดน่ากลัว

แต่ความหมิ่นเหม่นั้น อยู่ภายในพรรครัฐบาลนั่นเอง

แม้จะเอ่ยถึงการแก้ปัญหา “แบบเดิม” ก็ดูจะไม่ค่อยหวั่นเกรงกันเท่าไหร่

หวังว่า “ความพีค” ที่เกิดเมื่อวันก่อน จะไม่เกิดซ้ำอีกในเวลาอันใกล้เกินไปนัก

วรศักดิ์ ประยูรศุข

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image