ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
---|
วันที่ 8 กรกฎาคม เป็นวันแรกที่นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐบอกว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะหารือกันเรื่องนโยบายรัฐบาล
บังเอิญว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันมีพรรคร่วมรัฐบาลเฉียด 20 พรรค
พรรคแกนนำคือพรรคพลังประชารัฐ
พรรคร่วมแกนนำมีพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา
พรรคลำดับรองลงไปคือพรรครวมพลังประชาชาติไทย พรรคชาติพัฒนา พรรคพลังท้องถิ่นไท
แล้วก็มีพรรคอื่นๆ อีกจำนวนมาก
การจัดทำนโยบายรัฐบาลของรัฐบาลผสมที่มีพรรคจำนวนมากนี่น่าสนใจ
นอกจากนี้ รัฐบาลชุดนี้ยังเป็นรัฐบาลที่เสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ
แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ก็ได้แสดงทรรศนะเกี่ยวกับนโยบายบางเรื่องที่ไม่เห็นด้วยเอาไว้
นี่ก็เร่งเร้าให้รู้สึกสนใจกับนโยบายรัฐบาลชุดใหม่ที่กำลังร่างขึ้นมา
น่าสนใจตั้งแต่นโยบายของพรรคพลังประชารัฐที่ได้หาเสียงเอาไว้นั้นจะนำมาปรับเป็นนโยบายรัฐบาลทั้งหมดหรือไม่
เท่าที่ทราบว่านโยบายใหญ่ๆ อาทิ มารดาประชารัฐ บัตรสวัสดิการสังคม ราคาพืชผลเกษตร ค่าแรงขั้นต่ำ ฯลฯ
พรรคพลังประชารัฐยังไม่ลืมที่จะนำมาสู่การปฏิบัติ
เพียงแต่ แต่ละนโยบายที่จะนำมาใช้นั้น นโยบายอะไรจะได้เห็นผลก่อน และจะได้เห็นผลเป็นรูปธรรมเมื่อไหร่
สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา สามารถสอดแทรกนโยบายอะไรของพรรคเข้าไปได้บ้าง
กรณีนโยบายกัญชาเสรีของพรรคภูมิใจไทยที่ พล.อ.ประยุทธ์เคยแสดงทรรศนะไม่เอาด้วย
สุดท้ายแล้วจะเป็นนโยบายของรัฐบาลหรือไม่
กรณีนโยบาย ส.ป.ก. ของพรรคพลังประชารัฐเองที่ พล.อ.ประยุทธ์ยังแคลงใจ
สุดท้ายแล้วจะเป็นเช่นไร
นอกจากนี้ ยังมีนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองอื่นๆ อีกสิบกว่าพรรคที่แม้จะไม่ได้โควต้ากระทรวงไม่มีเก้าอี้รัฐมนตรี
แต่จะมีนโยบายที่จะผนวกเข้าไปเป็นนโยบายรัฐบาลบ้าง
น่าสนใจพรรคประชานิยม มีนโยบาย “เปลี่ยนเงินซื้อรถถังมาซื้อรถไถ” นโยบายตั้งกองทุนรักษาพยาบาล สร้างสถานพยาบาลรักษาผู้ป่วยอีก 1 แสนเตียง
แก้ปัญหาหนี้สินครู ตั้งธนาคารครู ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ จัดตั้งธนาคารตำรวจ
พรรคพลังท้องถิ่นไท ชูนโยบาย 4ช. 4จ. โฟกัสเฉพาะ จ.จริงจัง จัดตั้งองค์กรปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ 19 จังหวัด 8 ท้องถิ่น เพิ่มรากแก้วประเทศไทย
จัดตั้ง 1 ล้านบาทต่อชุมชนเปลี่ยนชีวิตคน กทม. จัดสรร นำที่ดินของรัฐ 1 ล้านไร่ ให้เกษตรกรใช้ประโยชน์ผลิตอาหารปลอดภัย
จัดการ สร้างเครือข่ายน้ำใต้ดิน 7,255 ตำบล ให้เกษตรกรมีน้ำเพาะปลูกตลอดปี เป็นต้น
และยังมีพรรคการเมืองอื่นๆ ที่คิดค้นและนำเสนอประชาชนไปช่วงที่หาเสียง
นโยบายเหล่านี้จะได้รับการจัดการเช่นไร จะนำมาผนวกรวม หรือถูกปล่อยทิ้งไป
สุดท้ายคือ “เงื่อนไข” การเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ที่บอกไว้ก่อนจะประชุมกรรมการบริหารพรรค
เงื่อนไขข้อหนึ่งคือ แก้ไขรัฐธรรมนูญ
“เงื่อนไข” ข้อนี้จะบรรจุอยู่ในนโยบายรัฐบาลหรือไม่
ถ้ามีจะปรากฏผลเมื่อใด ถ้าไม่บรรจุ พรรคประชาธิปัตย์จะมีท่าทีอย่างไร
นี่คือความน่าสนใจของนโยบายรัฐบาลผสม
เป็นความน่าสนใจก่อนที่รัฐบาลจะแถลงต่อรัฐสภา