⦁…ไม่ได้มีความประสงค์จะกล่าวร้าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ แต่กรณีถวายสัตย์ฯ ที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญนั้น จำเป็นต้องแก้ไขโดยเร็ว เพราะนับวันข้อเสนอแนะมากเพิ่มพูนทวีขึ้น และมีทีท่าจะลุกลามบานปลาย พล.อ.ประยุทธ์ จึงต้องตัดสินใจแก้ไข จะอยู่เฉยๆ คงไม่ได้ ส่วนจะแก้ไขด้วยการรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย หรือขอพระราชทานอภัยโทษ หรือลาออก เลือกนายกฯกันใหม่ หรือสิ่งใด พล.อ.ประยุทธ์ ต้องตรึกตรองอย่างผู้ใหญ่ เพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้าต่อได้
⦁…พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. แม้จะยืนยันว่ายุคของท่าน “ทหารจะไม่ปฏิวัติ” แต่คำให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศที่เพิ่มอุณหภูมิความเดือด รื้อฟื้นคอมมิวนิสต์ขึ้นมาสะท้อนภาพสงครามการเมือง และจวก “พรรคการเมืองที่เกิดขึ้นใหม่” พร้อมข้อกล่าวหานานาประการนั้น ฟังแล้วรู้สึกผิดทิศผิดทาง
⦁…สมมุติว่าพรรคการเมืองที่ “บิ๊กแดง” พาดพิงถึงได้รับเลือกตั้งเข้าสู่สภาจำนวนมากกระทั่งจัดตั้งรัฐบาล หรือ “ร่วมรัฐบาล” ขณะที่ผู้นำทัพมี “ทรรศนะเป็นลบ” กับพรรค แล้วทหารจะยอมอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของรัฐบาลที่มีพรรคการเมืองนั้นร่วมอยู่ได้อย่างไร ฟังๆ แล้วแทนที่จะ “มั่นใจ” ว่าไทยจะไม่มีปฏิวัติ กลับรู้สึกเหมือน “การปฏิวัติยังไม่หมด” ซะมากกว่า
⦁…“7 พรรคฝ่ายค้าน” เดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดกำหนดหลักการและเหตุผล รายละเอียดของการแก้ไข มีทั้งข้อเสนอให้แก้ ม.256 ให้สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ง่ายขึ้น และข้อเสนอตั้ง ส.ส.ร.ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมา ส่วนฝั่งรัฐบาล “ยังเงียบ” ไม่มีความเคลื่อนไหวในเรื่องแก้ รธน.แต่อย่างใด
⦁…สดับฟังรอบข้างเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจไทย ฟังแล้วฟังอีกรู้สึกใจหาย เพราะมีแต่ “ข่าวร้าย” อาทิ “ส่งออกติดลบ” และมีแนวโน้มติดลบไปอีก ราคาพืชผลไม่กระเตื้องขึ้นมาเลย ส่วน “ค่าเงินบาท” แม้ กนง.จะลดดอกเบี้ยนโยบายไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้ทำให้อ่อนค่าลง ขณะที่การอัดฉีดงบประมาณต้องรออีกสักพัก เพราะงบปี’ 63 ล่าช้า การลงทุนก็เพิ่มขึ้นเฉพาะตัวเลข “ยังไม่มีตัวเงิน” ส่วนโลกก็วิตกกับสงครามการค้า สงครามค่าเงิน …ตอนนี้อยากได้ยินรัฐบาลไทยชี้ทาง “เราจะไปทางไหน” จึงจะฝ่ามรสุมทางเศรษฐกิจนี้ไปได้ด้วยกัน
⦁…สภาพของประเทศที่ “การเมืองยังขัดแย้ง” ข้อกล่าวหาเดิมๆ ยังไม่หมดสิ้น การร่วมกันเพื่อช่วยให้ประเทศชาติอยู่รอดยังไม่เกิดเป็นรูปธรรม “ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างทำ” แต่ถ้าเป็นคนละพวกก็พร้อมจะรุมยำ สภาพเช่นนี้ชี้ให้เห็นอนาคตว่า “เหนื่อย” มากกว่า “สบาย”
⦁...“นิด้าโพล” เปิดผลสำรวจ เรื่อง “คมนาคมไฟเขียว ขึ้นค่าแท็กซี่มิเตอร์” พบว่าร้อยละ 62.52 ไม่เห็นด้วย เพราะราคาเดิมสูงอยู่แล้วราคาก๊าซ/น้ำมันยังไม่สูงมาก “ยังไม่สมควรขึ้นค่าโดยสาร” และการบริการยังไม่สมกับราคาที่เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับการขอขึ้นในกรณีรถติด ส่วนใหญ่ “ร้อยละ 81” ก็ไม่เห็นด้วย
นิวรอน
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่