| ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
|---|
ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ปลุกปลอบ ส.ส.พรรค แม้เสียงปริ่มน้ำ แต่รัฐบาลภายใต้การนำพรรคพลังประชารัฐจะอยู่ครบเทอม 4 ปี
สวนทางกับนักวิชาการ ทำนายอายุขัย ไม่นาน
เนื่องจากเผชิญปัญหายืนพื้นสาหัสสากรรจ์ ทั้งการเมืองและเศรษฐกิจ
ปมแรก คือเสียงปริ่มน้ำ
มากแค่จำนวนพรรค แต่เสียงรวมกัน 253 เสียง เกินกึ่งหนึ่งของจำนวน ส.ส.เต็มสภา 3 คน หักประธานสภาผู้แทนราษฎรออก เสียงพร่องอย่างต่ำอีก 1
จำนวนที่นับได้ เสียงรัฐบาลอย่างเป็นทางการแค่ 252 คน
เสถียรภาพง่อนแง่น
ขณะที่ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องนั้น ขนาดใหญ่ขึ้น รุนแรง ยิ่งกว่าในสมัยรัฐบาลทหาร
แต่บุคลากรหลัก กำกับดูแลการแก้ปัญหาหน้าช้ำ ยังคงเป็นชุดเดิม ที่ถูกวิพากษ์ วิจารณ์ ผลงานล้มเหลว
ในภาวะเศรษฐกิจโลกเติบโต ขาขึ้น
เส้นกราฟอัตราการขยายตัวของไทย มิได้จัดอยู่ในกลุ่มได้อานิสงส์ เกาะขบวนในเปอร์เซ็นต์ตัวเลขสูง เมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศในภูมิภาค ที่มีขนาดเศรษฐกิจใกล้เคียงกัน
ตอนขาลง ก็ทรุดยิ่งกว่า
มิหนำซ้ำ เครื่องไม้เครื่องมือการบริหารจัดการปัจจุบัน อย่างมาตรการการคลังที่งัดมาใช้ อย่าว่าแต่แก้ปัญหาเลย จะบรรเทาความเดือดร้อนคนยากคนจน คนส่วนใหญ่ของประเทศ ได้กี่มากน้อยยังเป็นคำถาม
เนื่องจากกระสุนพร่องเป็นข้อจำกัดของการจัดวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ
เมื่อใช้น้อยอัตราการคาดหวังผล กระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มกำลังซื้อก็ต่ำ
คนยากคนจนก็เปรียบได้กับเศรษฐกิจไทย-เศรษฐกิจโลก
กล่าวคือ ในขณะที่เศรษฐกิจโลกเติบโต การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในระดับมหภาคขยับตาม (ไม่สูงเทียบเท่า หรือใกล้เคียงเพื่อนบ้านในภูมิภาค) แต่เม็ดเงินไม่กระจายลงสู่ระดับล่าง ถึงมือคนยากคนจน อย่างที่มีเสียงพูดกันว่ารวยกระจุก แต่จนกระจาย
แต่ครั้นพอเศรษฐกิจโลกแย่
เศรษฐกิจไทยทรุดกว่า เครื่องยนต์ขับเคลื่อนใหญ่ๆ แทบทุกตัว พึ่งไม่ได้
ผู้ที่ได้รับผลกระทบเต็มๆ แรงๆ มากกว่า คือคนยากจน กลุ่มเป้าหมาย ที่รัฐบาล เติมเงิน มุ่งให้ความช่วยเหลือตามมติ ครม.ล่าสุด
รัฐบาลเผชิญปัญหาหนัก ไม่นับเหตุแทรกซ้อน ทั้งการเมือง และเศรษฐกิจ
แต่คิดฝัน อยู่ครบ 4 ปี ตามเป้าหมาย
ถ้าไม่พูดปลุกปลอบใจตัวเอง สมาชิกร่วมพรรค ก็แสดงว่า มั่นใจ มีแผนการรับมือ จัดการแก้ปัญหา
โจทย์การเมืองเรื่องจำนวนเสียงโหวตนั้น
เท่าที่สดับตรับฟัง พอมีทางออก ทางแก้ แม้อาจทุลักทุเล แต่มีเครื่องไม้ เครื่องมือ ดูดเสียงเพิ่ม สั่งเสียงหายพร้อมใช้งาน คงเอาตัวรอด ผ่านไปได้
แต่เรื่องเศรษฐกิจยังไม่เห็นชัดเจน และน่าเชื่อได้ว่า ไม่มีนวัตกรรม ไอเดียใหม่ มากกว่าที่เคยทำมา 5 ปี
อย่างการลงทุนภาครัฐ การออกมาตรการกระตุ้นเป็นครั้งคราว ที่ปัดฝุ่นใช้แจกไปหมาดๆ
ขนาดของปัญหาที่ใหญ่ขึ้นทุกวัน อีกทั้งมีปัจจัยภายนอกเข้ามามีอิทธิพล เศรษฐกิจโลกชะลอตัว และผันผวน
ทำให้ดำเนินการอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้
ที่พอทำได้คือ การประคับประคอง มิให้เสื่อมทรุดมาก ด้วยมาตรการประจำซ้ำๆ วนไป รอวงจรเศรษฐกิจดีดกลับเป็นขาขึ้น
ดังจะเห็นว่าที่เคยปากแข็ง
ก็เริ่มอ่อน รับว่าเศรษฐกิจมีปัญหาจริงๆ รับปากแก้ไข บรรเทาปัญหา บิวด์อารมณ์ประชาชน
รัฐบาลทุกชุดฝันอยู่ครบเทอม
รัฐบาลนี้-บิ๊กป้อมก็ฝันหวาน อยู่นานชนเพดาน 4 ปี
พล.อ.ประวิตรอาจมั่นใจในบารมี ฝีมือแก้เสียงปริ่มน้ำ มั่นใจเป็นเสาเข็ม เสาค้ำเสถียรภาพรัฐบาล
การบริหารจัดการงานการเมือง
แต่ในขาการบริหารราชการแผ่นดินนั้น มองจากเหลี่ยมมุมไหน ภายใต้สภาพปัญหาเศรษฐกิจปัจจุบัน
บุคลากร-แนวนโยบายที่ใช้
คงแก้ยาก สอบผ่านงานบริหารยาก รัฐบาลไม่น่าไปได้ตลอดรอดฝั่ง
เห็นรัฐมนตรี เสือ สิงห์ เจนจัดประมูลจัดซื้อจัดจ้าง กระตือรือร้น ส่องงบ เร่งโครงการ
เหมือนบอกอะไรบางอย่าง
สัญญาณชัดอยู่สั้น ตรงกันข้าม 4 ปี
