ผู้เขียน | ชุมฉันท์ ชำนิประศาสน์ |
---|
เดิมทีลุงทรัมป์ (แกล้งเรียกลุงให้ดูคุ้นเคย) เป็นบุคคลในข่าวที่คนไทยสนใจอยู่แล้ว ก่อนจะงัดมาตรการตัดจีเอสพีกับไทยแลนด์ มหามิตรเก่าแก่สุดแห่งเอเชีย เสียอีก
ความสนใจของคนไทยและคนอีกหลายๆ ชาติที่มีต่อ โดนัลด์ ทรัมป์ มีสูงและกว้างขวาง เพราะแกผู้นำชาติมหาอำนาจ เป็นคนดัง แต่ก่อนเคยเป็น
ผู้จัดการประกวดนางงามมิสยูนิเวิร์สด้วย สาวสวยชาติไหนได้มงกุฎก็ต้องมาถ่ายรูปกับแกทั้งนั้น
บุคลิกของลุงทรัมป์ยังโดดเด่นสะดุดตา เป็นขิงแก่วัย 73 ที่ดูดีมีพลัง อีกทั้งยังมีนโยบายสะท้านสะเทือนทั้งในบ้านและนอกบ้าน
อย่างนโยบาย อเมริกาต้องมาก่อน ความจริงแล้วผู้นำสหรัฐทุกคนล้วนยึดแนวทางเดียวกันนี้ เพราะเป็นหน้าที่ของประธานาธิบดีสหรัฐที่ต้องปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ แต่ไม่มีใครชูขึ้นมาเรียกแขก
ลุงทรัมป์กล้าเปิดศึกการค้ากับจีน และจับมือกับ คิม จองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ชาติที่เป็นอริกับสหรัฐ ให้เป็นเรื่องใหญ่กว่าที่ใครๆ คิด บ่งบอกว่าชัยชนะการเลือกตั้งหนก่อนที่แกพิชิตมาไม่ใช่เรื่องฟลุค หรือรัสเซียดันเข้ามา
แต่ชาวอเมริกันซีกหนึ่งต้องการเห็นผู้นำที่ฝ่าแนวคิดและวิถีปฏิบัติแบบเดิมของทำเนียบขาว
อะไรที่ไม่เคยเห็นก็เลยได้เห็น อะไรไม่เคยทำก็เลยทำ หรืออะไรที่เคยเงื้อง่าก็ฟันฉับลงมาเลย
อย่างกรณีเชิญลุงตู่ไปจับมือถึงทำเนียบขาว ขณะยังเป็นผู้นำคณะรัฐประหารอยู่นั้น ถ้า ยุคบารัค โอบามา คงไม่ได้เห็นภาพแบบนี้
หรือล่าสุดที่ลุงทรัมป์แถลงผลปฏิบัติการของกองทัพสหรัฐปลิดชีพผู้นำไอเอส อาบู บักร์ อัล-แบกแดดี ถ้าเป็นประธานาธิบดีคนอื่น คงไม่มีใครพูดเจ็บๆ ว่าหัวหน้ากองกำลังที่น่าสะพรึงกลัวตายอนาถอย่างกับสุนัขตัวหนึ่ง
สถานการณ์ตอนนี้อยู่ที่ว่า นายทรัมป์ดำรงตำแหน่งมา 3 ปีแล้ว และจะหมดวาระปีหน้าต้องการลุ้นรั้งตำแหน่งผู้นำอีกสมัย
ฉะนั้นการผลักดันผลงานที่คิดว่าจะโดนใจฐานเสียงเดิมหรือเพิ่มคะแนน ต้องทยอยปล่อยออกมาให้ฮือฮาช่วงปลายปีนี้ถึงกลางปีหน้า เพราะเป็นกระบวนการคัดเลือกตัวแทนพรรคลงสมัครชิงตำแหน่งและหาเสียง ทันให้ชาวอเมริกันตัดสินใจเดือนพฤศจิกายนปีหน้าพอดี
เผอิญว่าการปล่อยผลงานช่วงนี้มีไทยแลนด์ดันเข้าไปติดอยู่ในกลุ่มถูกตัดจีเอสพี ด้วยเงื่อนไขปัญหาแรงงานไม่เป็นสากล หรือไม่ตรงอเมริกัน สแตนดาร์ด
หลังคำสั่งนี้เผยแพร่ออกมา รัฐบาลไทยปลอบขวัญคนไทยด้วยกันว่า เพราะเศรษฐกิจไทยโตแล้ว เมื่อโตแล้วก็ต้องถูกตัดสิทธิพิเศษ บ้างว่าไม่กระทบมาก สินค้าที่โดนตัดสิทธิพิเศษทางภาษี 500 กว่ารายการ เราใช้ไป 300 กว่ารายการ แต่ฝั่งสหรัฐประเมินแล้วว่ากระทบต่อสินค้ามูลค่าเกือบ 4 หมื่นล้านบาท
ระยะเวลาเจรจาต่อรองของไทยจากนี้อีก 6 เดือนนี้ก็เป็นช่วงพีคที่ลุงทรัมป์ต้องสร้างผลงานทางการค้าเสียด้วย
ไม่รู้ว่าหลังจากไทยแลนด์ซื้อเฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวนโจมตีจากสหรัฐ 4,200 ล้านบาท จากเพดานที่สหรัฐขายอาวุธให้ได้ 12,000 ล้านบาทนั้น ต้องสั่งซื้ออะไรเพิ่มอีกหรือไม่ น่าติดตามชม