สถานีคิดเลขที่ 12 : เข้มข้น-อาเซียน : โดย สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

รัฐบาลอุตส่าห์ประกาศวันหยุดพิเศษในวันจันทร์ที่ 4 และ 5 พฤศจิกายนนี้ สำหรับพื้นที่ กทม.และนนทบุรี เพื่อระบายผู้คนรถราออกไปจากเมืองหลวง เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับขบวนของผู้นำชาติต่างๆ ที่เดินทางมาร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่ไทยเป็นเจ้าภาพในขณะนี้

เชื่อว่าตั้งแต่เย็นวันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน คนกรุงเทพฯก็คงเริ่มหลั่งไหลออกไป สนองรับวันหยุดยาว 4 วันกันเต็มที่

ถือเป็นการช่วยชาติอย่างหนึ่ง นั่นคือ ทำให้เมืองหลวงลดความแออัด ท้องถนนลดความหนาแน่นของการจราจร

ทำให้งานใหญ่ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ง่ายดายและดูดีมากขึ้น

Advertisement

แต่ทั้งหมดนี้คงไม่ได้หวังผลแค่ลดปัญหารถราติดขัด แต่น่าจะรวมถึงเพื่อรองรับมาตรการการอารักขาและรักษาความปลอดภัยด้วย

งานนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร.ฝ่ายความมั่นคง ระดมกำลังตำรวจหลายหน่วยกว่า 1 หมื่นนาย เข้าประจำการจุดต่างๆ และเตรียมพร้อมเคลื่อนที่เร็วเพื่อแก้ไขสถานการณ์

โดยสถานการณ์ที่น่าห่วงใยในวันนี้ ไม่ใช่ภาพเดิมเหมือนเหตุการณ์ล้มประชุมผู้นำอาเซียน ที่พัทยา เมื่อปี 2552

Advertisement

วันนี้ม็อบการเมืองไม่มี ความขัดแย้งทางการเมืองมีเวทีสภาให้ต่อสู้กันเปิดเผยชัดเจนและสันติ

สถานการณ์ที่ต้องจับตาสำหรับการประชุมอาเซียนหนนี้ คงเป็นบทเรียนจากกรณีระเบิดปั่นป่วนนับสิบจุด เมื่อ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งตอนนั้นมีการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนในไทยพอดี

จึงไม่น่าแปลกใจ ที่คำสั่งของ ผบ.ตร.และรอง ผบ.ตร.ฝ่ายความมั่นคง เน้นเข้มข้นเรื่องงานข่าวกรอง การติดตามตัวบุคคล แกะรอยกันตั้งแต่พื้นที่ชายแดนใต้สุดขึ้นมาถึง กทม.

ร้านค้าร้านจำหน่ายวัสดุเคมีภัณฑ์ตรวจเช็กกันละเอียด

แต่เชื่อว่า ตำรวจเตรียมพร้อมกันขนาดนี้ ทั้งการตรึงกำลังตามจุดสำคัญๆ ทั้งงานสืบสวนหาข่าวโดยมีกลุ่มเป้าหมายชัดเจนล่วงหน้า คงเป็นการป้องปรามที่ได้ผลอย่างดี

ตอนที่ลงมือเมื่อ 2 สิงหาคมนั้น เป็นการเดินทางขึ้นมาจากจังหวัดชายแดนใต้ แบบมาเงียบๆ แล้วก่อเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ไม่ทันตั้งตัว ไม่รู้เนื้อรู้ตัว

แต่การประชุมอาเซียนวันนี้ ป้องกันอย่างดีเยี่ยม จนน่าจะสกัดกั้นป้องกันได้อยู่หมัด

ส่วนจะถึงขั้น เป็นดังที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ออกมาให้ข้อมูลว่า มีทีมผู้ก่อเหตุจากภาคใต้ 100 คน เดินทางเข้ามาแล้วหรือไม่นั้น

ประเด็นนี้ ทำให้ผู้รับผิดชอบดาหน้าออกมาตอบโต้ ทั้งปฏิเสธข่าวและทั้งมองว่าเป็นการพูดจาทำให้เกิดความปั่นป่วน

ยิ่งนายมงคลกิตติ์ หรือพี่เต้ เล่นพกสารตั้งต้นระเบิดเข้ามาทดลองเครื่องตรวจจับระเบิดของสภา ก็เลยยิ่งเละกันเข้าไปใหญ่

กลายเป็นเรื่องพิลึกและพิเรนทร์เกินไป

งานนี้คือทำหลุดมือ ตูมใส่ตัวเองแท้ๆ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image