สถานีคิดเลขที่ 12 : เหลียวหน้า-แลหลัง : โดยจำลอง ดอกปิก

แม้ผ่านช่วงเปลี่ยนผ่าน จากการปกครองแบบพิเศษมาเป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้ง
แต่เอาเข้าจริง ประเทศไทยก้าวย่ำอยู่กับที่

ที่เปลี่ยนแปลงชัดเจนในปี 2562 คือ องค์ประกอบคณะรัฐมนตรีเท่านั้น

มีนักการเมือง เข้ามาดำรงตำแหน่ง ในสัดส่วนที่มากขึ้น ตามสูตรจัดสรรเก้าอี้ ที่คำนวณตามจำนวนที่นั่ง ส.ส. ของพรรคร่วมรัฐบาล

แต่การที่นายกรัฐมนตรีเป็นคนเดิม

Advertisement

อาจบดบังภาพ การเปลี่ยนแปลง-ความใหม่ อันหากจะมี

ที่แน่นอนที่สุดก็คือ เมื่อเป็นคนเดิม สไตล์การบริหารก็ต้องเป็นแบบเดิม

ต่อให้นักการเมือง คิดก้าวหน้า วิสัยทัศน์บริหารจัดการแก้ปัญหาประเทศ กว้างไกลทันยุคดิจิทัลแค่ไหนก็ตาม ก็ไม่มีทางสลัดหลุดออกจากกรอบเดิมได้

Advertisement

ทั้งนี้เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งนายกฯ

เป็นผู้นำบริหาร

อย่าว่าแต่จะเดินตามเลย ยอมให้ใครเดินเคียงก็เป็นไปไม่ได้

อีกทั้งมีอำนาจต่อรองสูงมาก กลไก เครือข่ายรัฐราชการ และกติกา เอื้อต่อการสืบทอดแนวทางบริหารประยุทธ์ 1

พรรคการเมืองไม่กล้าหืออือ ศิโรราบ อยู่แต่ในพื้นที่ จำกัดขอบเขตอาณาบริเวณ

สภาพในทุกวันนี้ จึงไม่ต่างจากห้วงหลังรัฐประหารมากนัก

ทั้งปัญหาการเมือง การปกครอง ภาวะเศรษฐกิจ

มีอะไรดีขึ้นหรือไม่

ซ้ำร้ายวงจรเก่า อันเป็นอีกชนวนเหตุ ของปัญหาความขัดแย้ง แบ่งฝักฝ่ายอย่างรุนแรง

เรื่อง 2 มาตรฐานฟื้นคืนชีพ

การอุบัติใหม่รุนแรง ไม่แยแส ต่อขื่อแป สังคมใดๆ ทั้งสิ้น

ฝ่ายรัฐได้รับสิทธิลอยนวล ไม่มีใครตามจับ ล่าตัว

ตรงกันข้ามกับการปฏิบัติต่ออีกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นคดีเล็ก คดีใหญ่ คดีที่เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ทำลายล้างทางการเมือง

มีการเร่งปิดคดีอย่างรวดเร็ว ปิดปากปิดกั้นการมีปากเสียงในทุกระดับ

ปี 2562 ที่กำลังจะผ่านพ้น

เป็นปีเลือกตั้ง ที่ปลุกความหวัง ประชาชน เมื่อบ้านเมืองกลับสู่ปกติแล้ว ทุกอย่างน่าจะดีขึ้น

แต่ทุกอย่างก็เป็นอย่างที่เห็น

เปลี่ยนผ่าน เปลี่ยนแต่กายภาพ แต่ไม่เปลี่ยนแปลงวิธีคิด วิธีบริหาร

ด้านการเมือง สิทธิ เสรีภาพของประชาชนยังถูกกำกับ ควบคุม แทนที่การขยาย

นโยบาย-ความมั่นคงดูเหมือนอยู่เหนือกว่า กฎหมายแม่บท ที่เขียนรับรองสิทธิ เสรีภาพประชาชนไว้

ด้านเศรษฐกิจนั้นเล่า ก็มีแต่ถดถอย สืบทอดความตกต่ำจากรัฐบาลทหาร

ประชาชนคนยากคนจน คนส่วนใหญ่ของประเทศ ได้รับผลกระทบถ้วนหน้า

เท่านั้นไม่พอ ภาคธุรกิจ อุตสาหกรรมก็พร่ำบ่น มองไม่เห็นอนาคต

ปัญหาด้านต่างๆ ของประเทศ หมักหมมมานาน มิหนำซ้ำเกิดปัญหาใหม่ กลายเป็นปัญหาซ้อนปัญหา

ความจริงข้อนี้ เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ว่าแก้ไม่ง่าย

ไม่ว่าบิ๊กตู่หรือใคร มาเป็นรัฐบาลตอนนี้ก็เหนื่อย แต่แม้ปัญหาสาหัสสากรรจ์แค่ไหน เมื่อเป็นรัฐบาล ก็ย่อมต้องรับผิดชอบ แก้ไข คลี่คลาย

ทั้งนี้ปัญหาต่างๆ ในบรรดามี หากแยกแยะให้ดี จะพบว่า ที่ดำรงคงอยู่ สืบทอดมาตั้งแต่เมื่อครั้งประเทศอยู่ในห้วงรัฐประหาร จวบจนทุกวันนี้

บางเรื่องแก้ยากมากจริง

อย่างปัญหาเศรษฐกิจ เนื่องจากมีปัจจัยภายนอก ควบคุมไม่ได้ สงครามการค้า เศรษฐกิจโลกเข้ามาเกี่ยวข้อง

ที่พอทำได้ก็แค่ประคับประคอง มิให้เสื่อมทรุดมากเกินไป ส่งผลกระทบต่อประชาชนรุนแรง

แต่เพียงแค่จะประคับประคองให้ฝ่าไปได้ ก็ต้องอาศัยการบริหารจัดการแก้ปัญหา ที่ความรู้ความสามารถถึง มือถึง

มาตรการ นโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลเข็นออกมาสู้ ได้ผลหรือไม่

มีคำตอบในตัว ว่าต้องทบทวน คิดใหม่ บริหารใหม่

แต่ในบรรดาโจทย์ยาก ก็มีเรื่องง่าย แก้ง่าย

อย่างเรื่องการเปิดพื้นที่การเมืองให้กับประชาชน หรือแม้แต่การแก้รัฐธรรมนูญ ให้เนื้อหาเป็นประชาธิปไตย

ที่แค่รัฐบาลส่งสัญญาณเท่านั้น เรื่องที่เป็นปัญหา ก็จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป

ปัญหาทั้งหมดจึงขึ้นอยู่กับว่า รัฐบาลจะเหลียวหลัง ทบทวนแก้ไข

หรือเลือกเดินหน้าต่อในเส้นทางเดิม สืบทอดเจตนารมณ์ คสช.

หากเป็นประการแรก คือรับที่จะทบทวนแก้ไข ปี 2563 คงจะเป็นศักราชใหม่การเมือง การบริหาร ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน และรัฐบาลอย่างแน่นอน

จำลอง ดอกปิก

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image