ผู้เขียน | สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน |
---|
เป็นความเศร้าสลดใจไม่รู้ครั้งที่เท่าไหร่ สำหรับครอบครัวญาติมิตรของ นายพอละจี หรือ บิลลี่ รักจงเจริญ เมื่อความหวังที่จะได้รับความเป็นธรรมกลับคืนมาผ่านกระบวนการยุติธรรม ต้องดับวูบไปอีกครั้ง หลังจากอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร กับพวก ในข้อหาฆาตกรรม
โดยให้ฟ้องเพียงข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบ กรณีนายชัยวัฒน์กับพวกจับกุมบิลลี่ข้อหาครอบครองน้ำผึ้งป่าแล้วไม่ดำเนินคดีตามกฎหมาย
หลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษได้จุดประกายความหวังขึ้นมา ด้วยการทุ่มเทสืบสวนสอบสวนจนพบกระดูกและถังน้ำมัน 200 ลิตร รวมทั้งอุปกรณ์ต่างๆ ที่ส่อว่าเป็นกระบวนการเผาศพอำพราง ทิ้งอยู่ในน้ำภายในอุทยานแก่งกระจาน
ทั้งสามารถพิสูจน์กระดูกที่พบดังกล่าวด้วยวิธีไมโทคอนเดรียดีเอ็นเอ พบการสืบสายพันธุ์ผ่านแม่สู่ลูก ยืนยันได้ว่าเป็นกระดูกของบิลลี่ที่ผ่านการเผาทำลายด้วยความร้อนสูง แล้วยังแช่ในน้ำเป็นเวลาหลายปี
นำมาสู่การดำเนินคดีอดีตหัวหน้าอุทยานแก่งกระจานกับลูกน้องในข้อหาฆาตกรรมนายพอละจี หรือบิลลี่
ความพยายามของดีเอสไอดังกล่าว ไม่แค่ปลุกความหวังให้กับชุมชนกะเหรี่ยง ลูกเมียของบิลลี่เท่านั้น แต่รวมถึงนักสิทธิมนุษยชน นักต่อสู้เพื่อทวงความเป็นธรรมให้กับเหยื่อเจ้าหน้าที่รัฐรายอื่นๆ ไปจนถึงกระบวนการอุ้มฆ่าเผาป่นทำลายศพ
แต่เมื่ออุตส่าห์ตามจนเจอกระดูกแล้วพิสูจน์ได้ชัดเจนในระดับหนึ่ง ทำให้เป็นคดีที่มีความหวังว่าจะกู้ศรัทธากระบวนการยุติธรรมไทยให้ฟื้นคืนมาได้
ลงเอยอัยการก็สั่งไม่ฟ้องอีก
คงจะต้องเฝ้ารอดูกันต่อไป หลังพนักงานสอบสวนดีเอสไอทำความเห็นแย้งไปยังอัยการสูงสุด
แน่นอนว่าถึงอัยการจะสั่งฟ้องข้อหาฆาตกรรม ก็ยังไม่ใช่ข้อสรุปว่านายชัยวัฒน์กับพวกฆ่าจริง ต้องผ่านการตัดสินของ 3 ศาลก่อน
เพียงแต่วันนี้ คดีฆ่าบิลลี่กำลังจะไม่มีโอกาสได้ขึ้นศาล
ด้านหนึ่งอัยการมีความเห็นที่น่าสนใจว่า ถ้าสั่งฟ้องทั้งที่เห็นว่าพยานหลักฐานยังไม่ชัดเจนพอจะมีผลเสียหายมากกว่าหากลงเอยศาลตัดสินยกฟ้อง แต่การสั่งไม่ฟ้องในชั้นอัยการ มีผลให้คดีนี้ยังสามารถแสวงหาพยานหลักฐานใหม่ที่ชัดเจนกว่านี้เพื่อดำเนินคดีใหม่ได้
แต่อีกด้านหนึ่ง การที่อัยการเห็นแย้งถึงวิธีการไมโทคอนเดรียว่าไม่ชัดเจนเพียงพอ ทั้งที่เป็นวิธีการเดียวในการพิสูจน์กระดูกที่ถูกเผาทำลายจนเสียหายไปมากแล้ว และเป็นวิธีการมาตรฐานโลก
รวมทั้งเห็นว่าการที่นายชัยวัฒน์กับพวกอ้างว่าได้ปล่อยตัวนายบิลลี่ไปแล้วนั้น มีพยานบุคคลยืนยัน เพียงแต่เป็นพยานที่สับสนให้การกลับไปมา
ถ้าจะแปลว่าบิลลี่ได้รับการปล่อยตัวไปแล้วจริง ย่อมเป็นความเห็นที่ทำร้ายจิตใจของลูกเมียครอบครัวบิลลี่อย่างรุนแรงที่สุด
ปล่อยตัวมาแล้ว จากนั้นบิลลี่ไปไหน ไม่กลับมาหาครอบครัว 5 ปีแล้ว
ที่สำคัญไม่มีใครในโลกนี้ที่เชื่อว่าบิลลี่ยังไม่ตาย บิลลี่ไม่ได้ถูกฆ่า
ที่ว่าในโลกนี้ เพราะเป็นคดีที่ได้รับความสนใจจากองค์กรสิทธิมนุษยชนทั่วโลก แม้แต่ยูเนสโกยังตีตกการขอให้แก่งกระจานเป็นมรดกโลก ก็ด้วยเหตุผลสิทธิชุมชนกะเหรี่ยงในพื้นที่ ซึ่งรวมถึงคดีบิลลี่ด้วย
ไปๆ มาๆ การสูญหายไปจากโลกใบนี้ของบิลลี่ ต้องย้อนกลับมายังจุดของการถามหาความเป็นธรรมในบ้านเมืองนี้มันมีหรือไม่ และอยู่ที่ไหน
สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน