สถานีคิดเลขที่ 12 : ญัตติใหม่‘นิสิต-น.ศ.’ : โดย จำลอง ดอกปิก

หากวันนี้ มีอนาคตใหม่ พรรคการเมืองที่มีที่นั่งสูงเป็นอันดับ 3 จากการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 อยู่ในสภา อยู่ในสารบบพรรคการเมืองไทย
รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ คงแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
เนื่องจากสภามีมติไว้วางใจ ให้บริหารราชการแผ่นดินต่อไป

แม้ 4 วันที่ผ่านมา ฝ่ายค้าน-ส.ส.อนาคตใหม่ ชักแถว ระบุเหตุผลต่างๆ นานา ที่เห็นว่าไม่สมควรไว้วางใจ ให้รัฐบาลบริหารอีกต่อไป แต่ก็ไม่สามารถโน้มน้าวสมาชิกให้ลงมติ ไม่ไว้วางใจได้

ที่จริงการมีอนาคตใหม่อยู่ในสภา เป็นข้อดีด้วยซ้ำ

การอภิปรายอาจเข้มข้นมากขึ้น มีการตีแผ่ความล้มเหลวและเรื่องไม่ชอบมาพากล แต่รัฐก็สามารถใช้สิทธิในการชี้แจง หักล้าง

Advertisement

และแม้เสียงไม่ไว้วางใจจะเพิ่มมากขึ้น แต่ก็ไม่เกินเพดานเสียงส่วนน้อย

ถึงอย่างไรฝ่ายค้านก็ล้มรัฐบาลไม่ได้

ไม่เพียงเท่านั้น การมีอนาคตใหม่ในสภา ยังช่วยขับส่งภาพทางการเมืองรัฐบาลทางอ้อม

ยิ่งอนาคตใหม่แข็งแกร่งเท่าใด ก็ยิ่งทำให้รัฐบาลที่ผ่านกระบวนการตรวจสอบ ควบคุมการทำงานอย่างเข้มข้นมาได้ มีความสง่างาม ชอบธรรม

เทียบไม่ได้กับการตรวจสอบแบบพินอบพิเทาจากพรรคฝ่ายค้านใหญ่ เสือ สิงห์ กระทิง แรด

วันนี้ไม่มีอนาคตใหม่

เดอะ ริเวอร์ ออฟ โนรีเทิร์น

รัฐบาลได้รับความเห็นชอบให้บริหารประเทศต่อ

แต่สิ่งที่รัฐบาลเผชิญ อาจหนักข้อยิ่งกว่าในสภา

สาหัสสากรรจ์ยิ่งกว่าการมีอนาคตใหม่ในสภา

นิสิต นักศึกษา นักเรียน ชุมนุมแสดงพลังรายวัน สถาบันแล้วสถาบันเล่า

เปิดเกมไม่ไว้วางใจ ให้บริหารประเทศต่อไปนอกสภา

แม้วันนี้เร็วไปที่จะชี้ว่า สถานการณ์การชุมนุมจะพัฒนา ยกระดับออกนอกรั้วมหาวิทยาลัยหรือไปสู่จุดใด

แต่รัฐบาลก็ประมาท มองข้ามเสียงของผู้คนที่น่าเชื่อได้ว่า มูลเหตุจูงใจมาจากการลบชื่อพรรคอนาคตใหม่ ตัวแทนปากเสียงออกจากสารบบ ผสมเข้ากับความไม่พอใจการบริหารประเทศ ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้

รัฐบาลจะอยู่ได้ไปรอด เสียงสนับสนุนในสภาเป็นพื้นฐานของการดำรงคงอยู่

แต่เสียงประชาชนก็สำคัญ

รัฐบาลต้องบริหารความพึงพอใจเจ้าของอำนาจที่แท้จริงด้วย

รัฐบาลในอดีต หลายต่อหลายคณะ มีเสียงมากกว่านี้นับ 100 เก้าอี้ แต่ทว่าก็อยู่ไม่ได้

รัฐบาลใดก็ตาม ที่จะขยับ ทำอะไรก็ตาม มีแต่ผู้คนตั้งคำถาม ตั้งข้อสงสัย

รัฐบาลที่ไม่ได้รับความร่วมไม้ร่วมมือจากประชาชน จะไปรอดหรือ

มิได้แปลว่า ประชาชนเสื่อมศรัทธาหรือ

รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ต้องสำรวจตรวจสอบ ทบทวนตัวเอง แม้สภาไว้วางใจ แต่มีอะไรที่ต้องแก้ไข ปรับเปลี่ยนอีกหรือไม่

เพื่อให้การทำงาน สนองตอบต่อการแก้ปัญหาประชาชน พัฒนาประเทศ

อันที่จริง การชุมนุมเคลื่อนไหว เป็นเสรีภาพที่มีบทบัญญัติรัฐธรรมนูญรองรับ เป็นเรื่องปกติของประเทศที่ปกครองแบบประชาธิปไตย หรือแอบอ้างความเป็นประชาธิปไตย

การชุมนุมของนิสิต นักศึกษาปัจจุบันก็เช่นกัน กระทำภายใต้การใช้เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ

แต่การชุมนุม ที่มีเงื่อนไข หรือเริ่มมีเงื่อนไข ข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล การแก้ไขไม่ง่ายเหมือนการชุมนุม เรียกร้องแก้ราคาพืชผล ต่อต้านโรงงาน ขอถนน หนทาง ที่จัดการแก้ไขได้ง่าย

การชุมนุมที่มีเงื่อนไขทางการเมืองสูง อย่างการปฏิเสธ ไม่เอารัฐบาลต่างออกไป

หากลุกลาม ขยายวงกว้าง ย่อมส่งผลกระทบต่อรัฐบาล ต่อการดำรงคงอยู่

ต้องหาวิธีปลดล็อกแบบละมุนละม่อม ด้วยวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่ง

แต่โดยทั่วไปแล้ว การเรียกร้องที่มีเงื่อนไขสูงๆ ไม่มีรัฐบาลใดยอมง่ายๆ

รัฐบาลเผชิญปัญหาม็อบนิสิต นักศึกษา

การชุมนุมของคนหนุ่มสาวที่ไม่เคยปรากฏในรอบหลายสิบปีนี้ อาจยุติจบลงด้วยดีก็ได้ ยกระดับไปสู่การชุมนุมใหญ่ขับไล่รัฐบาลก็ได้ หากการบริหารจัดการแก้ปัญหา กลายเป็นเงื่อนไข

แต่ก็เร็วไปอยู่ดี ที่จะชี้ทิศทาง สถานการณ์

ณ วันนี้ จะจบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง หรือแบบไหน ไม่สามารถคาดการณ์ทำนายได้

แต่จับจากคำพูดคำจาผู้หลักผู้ใหญ่ และการปฏิบัติต่อผู้เห็นต่างตลอดการบริหารที่ผ่านมา

วิธีคิดแบบทหาร ใช้ระบบความมั่นคงนำ กับการบริหารจัดการแก้ปัญหาม็อบ น่าเป็นห่วงอย่างเป็นที่ยิ่ง

บิ๊กตู่จะปลดชนวนอย่างไร

เห็นต่างทางการเมืองไม่ใช่ศัตรู

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image