ผู้เขียน | สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน |
---|
เปรียบกันว่าการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดกำลังทำให้โลกใบนี้แทบจะหยุดหมุน เป็นอัมพาตไปทุกส่วนทุกพื้นที่ ไม่มีกิจกรรม ไม่มีกีฬา ไม่มีการท่องเที่ยว แม้แต่การก่อการร้ายระดับโลก ก็เพิ่งมีข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กองกำลังรัฐอิสลามหรือไอเอส ยังออกประกาศเตือนให้เหล่านักรบหลีกเลี่ยงไปปฏิบัติการก่อการร้ายในพื้นที่แพร่ระบาดไวรัส
เท่ากับว่าไอเอสยังสั่งให้ลดก่อการร้าย เพื่อความปลอดภัยในสุขภาพของเหล่านักรบเอง
นั่นเป็นเรื่องของกลุ่มก่อการร้ายระดับโลก แต่กลุ่มก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ของเรา ดูเหมือนไม่เป็นเช่นนั้น
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เพิ่งปฏิบัติการคาร์บอมบ์ถล่มที่ทำการของ ศอ.บต.หรือศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เล่นเอาป้ายสำนักงานใหญ่ พังกระจายหายไปทั้งป้าย ทำให้ผู้คนได้รับบาดเจ็บจำนวนไม่น้อย
ยังโชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิต
ปมประเด็นสาเหตุของปฏิบัติการ คงต้องรอการสืบสวนของสอบสวนของตำรวจและการข่าวของหน่วยข่าวกรอง โดยก่อนหน้านี้เพิ่งมีเหตุปะทะจับตายมาไม่นาน ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะนำมาสู่การตอบโต้รุนแรง
เพียงแต่ที่น่าคิดก็คือ สำนักงาน ศอ.บต.ไม่เคยเป็นเป้าก่อความไม่สงบมาก่อน นี่เป็นครั้งแรก
แล้วทำไม ศอ.บต.ที่เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจหนักไปทางพัฒนา ไม่เกี่ยวกับการสู้รบปราบปราม จึงโดนคาร์บอมบ์บุกมาเยือน
ก็ต้องตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนว่า หรือมีโครงการพัฒนาอะไร ที่สร้างปัญหาจนกลายเป็นชนวนการก่อเหตุ
อีกประการ ขณะเกิดเหตุนั้น ภายใน ศอ.บต.กำลังมีการประชุมมาตรการแก้ไขโควิดในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้อยู่พอดี
ก็ต้องไปดูว่า มาตรการสกัดกั้นไวรัส ไปสร้างผลกระทบต่อวิถีชีวิต หลักปฏิบัติของคนในพื้นที่ใดๆ หรือไม่ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีความละเอียดอ่อน
แต่ภาพรวมก็เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันมาตลอดว่า กรณีรัฐบาลมีนโยบายการปรับเปลี่ยนโครงสร้างหน่วยราชการในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้
จะมีการควบรวม ศอ.บต.เข้ากับ กอ.รมน.หรือกองอำนวยรักษาความมั่นคงภายใน
ทำให้ ศอ.บต.ตกเป็นเป้าจับตา จะไม่ใช่หน่วยงานพัฒนาเข้าถึงมวลชนดังเดิมต่อไป กลายเป็นหน่วยงานด้านความมั่นคง
นี่ก็เป็นอีกประเด็นที่น่าขบคิดพิจารณา ว่ามีส่วนทำให้ ศอ.บต.โดนบุกถล่มเป็นครั้งแรกหรือไม่
แต่รวมๆ แล้ว นับจากมีรัฐบาล คสช.เมื่อปี 2557 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบันมีรัฐบาลจากการเลือกตั้ง แต่ก็เป็นรัฐบาลภายใต้การกุมอำนาจของผู้นำ คสช.
จากปี 2557 ชัดเจนว่า นโยบายดับไฟใต้เน้นหนักด้านความมั่นคง ไม่ใช่การเมืองนำการทหารเหมือนก่อนหน้านี้
แล้วสถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ คลี่คลายลง ลดเสียงปืนเสียงระเบิด ลดการเจ็บตายลงหรือไม่
ข้อเท็จจริงประจักษ์ต่อสายตากันอยู่แล้ว
ก็ขนาดโควิดกำลังแรง ก่อการร้ายโลกยังต้องงด
แต่ 3 จังหวัดใต้ของเรายังเหมือนเดิม การก่อความไม่สงบไม่มีลดไม่มีงดแต่อย่างใด