สถานีคิดเลขที่12 : รีสตาร์ต! : โดย จำลอง ดอกปิก

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด หลงใหลได้ปลื้มกับจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ แนวโน้มลดลงทุกวัน

ยกเป็นความดีความชอบ ของการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ข้อกำหนด ห้ามออกนอกเคหสถาน 22.00-04.00 น.

‘ที่สถานการณ์เราดีขึ้นเป็นผลมาจาก 14 วันที่แล้ว ที่มีการประกาศเคอร์ฟิวในวันที่ 3 เมษายน’ โฆษกศูนย์โควิดแถลงชัดถ้อยชัดคำ

เป็นเคอร์ฟิว เป็น พ.ร.ก.ที่ประกาศใช้ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งนั่นแปลว่า นายกฯตัดสินใจถูกต้อง

Advertisement

และแน่นอน หากแก้ปัญหาสำเร็จ

ย่อมเป็นผลงาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

‘บิ๊กตู่’ สูญเสียภาวะความเป็นผู้นำ เมื่อเข้ารับตำแหน่งนายกฯภายหลังการเลือกตั้งทั่วไป เนื่องจากการเมืองเปลี่ยน

องค์ประกอบรัฐบาลเปลี่ยน เป็นรัฐบาลผสม หลายพรรค

มีสภาผู้แทนราษฎร ควบคุม ตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดิน

ต่างจากยุคสภาตรายาง ลูกขุนพลอยพยัก

แต่ถึงแม้ ‘บิ๊กตู่’ ผ่านศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจมาได้ แต่สถานการณ์ หลังสภาไว้วางใจ กลับไม่สู้ดีนัก

ผลพวง จากฝ่ายค้าน ใช้เวทีตีแผ่ให้เห็นอีกด้าน หรือหลายด้าน ที่ไม่มีใครพูด ไม่มีพื้นที่ให้แสดงออกมาก่อน มันถูกกดทับ ปิดปาก ปิดกั้นตลอดช่วงการบริหารของรัฐบาลทหาร ไม่ว่าการบริหารไม่มีประสิทธิภาพ แก้ปัญหาเศรษฐกิจล้มเหลว การใช้อำนาจหน้าที่มิชอบ

เกิดแฟลชม็อบ การชุมนุมของนิสิต นักศึกษา จุดติดถึงนักเรียน และประชาชนขึ้นตามมารับช่วงต่อ ไม่ไว้วางใจ

เคลื่อนไหวแสดงพลังรวมตัว ปฏิเสธรัฐบาล

แต่แฟลชม็อบ ซึ่งในขณะนั้น ไม่มีใครทำนายได้ชัดว่า สถานการณ์จะพัฒนาไปสู่ทิศทางใด ก็ยอมถอยกลับสู่ที่ตั้ง หลีกทางให้กับการวาระใหญ่ การต่อสู้กับโรคระบาดโควิด

เมื่อไม่มีม็อบชุมนุมไล่ บิ๊กตู่ก็หายใจโล่ง

แม้เผชิญวิกฤตใหม่ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดก็ตาม เนื่องจากไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง มุ่งมั่น ทุ่มเทในอันที่จะแก้ปัญหาเร่งด่วน โรคระบาดได้อย่างเต็มที่

การเกิดขึ้น แพร่ขยาย และระบาดแทบทุกจังหวัดในประเทศไทย

เท่ากับเปิดโอกาสให้รัฐบาลได้แก้ตัว แสดงความรู้ความสามารถในการแก้ปัญหา ที่ฝ่ายค้านวิพากษ์วิจารณ์ว่าอ่อนด้อยเป็นที่ยิ่งอีกครั้ง

เท่ากับเปิดโอกาสให้ พล.อ.ประยุทธ์ กอบกู้ภาวะความเป็นผู้นำกลับมาอีกครั้ง หลังจากสูญเสียไป เมื่ออยู่ภายใต้กติกา และโครงสร้างใหม่ อันแตกต่างจากยุครัฐบาลทหาร ที่นายกฯและหัวหน้า คสช. มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแต่เพียงผู้เดียว

มิหนำซ้ำยังมี ม.44 ดาบพิเศษ แก้สารพัดปัญหา

‘บิ๊กตู่’ ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตามด้วยเคอร์ฟิว เพื่อสกัดกั้น ควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสมรณะ

จาก 26 มีนาคม 4 เมษายน จนถึงวันนี้ ศูนย์โควิดโฆษณาว่า พ.ร.ก.-เคอร์ฟิว ผลิดอกออกผล ในขณะที่ พิษโควิดส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจโลกเศรษฐกิจไทย และในทุกมิติ

เคอร์ฟิว คำสั่งต่างๆ กระหน่ำซ้ำเติมอีกทาง

ประชาชน-ทุกภาคส่วนเดือดร้อนปากท้อง ทำมาหากินไม่ได้

เริ่มมีข้อเสนอ-มีเสียงเรียกร้อง ผ่อนคลายบางพื้นที่คุมระบาดได้ บางมาตรการ แนวโน้มความเป็นไปได้เรื่องนี้พอมี

แต่หากเรียกร้องสูงถึงขั้น ให้ยกเลิกบังคับใช้ พ.ร.ก.โดยเร็ว นั้นคงยาก

เนื่องจากมิใช่ ยังจำเป็นบ้างบางพื้นที่อย่างเดียว แต่ พ.ร.ก.เป็นประโยชน์ต่อทางการเมืองสูงมาก

นายกฯมีอำนาจเต็ม บรรดาอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรี ผู้รักษาการตามกฎหมาย 40 ฉบับ ถูกโอนมาเป็นอำนาจหน้าที่นายกฯ ปลัดกระทรวงต่างๆ ขึ้นตรง

ไม่ต่างจากสถานการณ์พิเศษช่วงรัฐประหารเท่าใดนัก อีกทั้งยังห้ามชุมนุม ห้ามอะไรต่อมิอะไร

สถานการณ์เป็นใจ เปิดทางให้ ‘บิ๊กตู่’ รวบอำนาจโชว์เดี่ยว

เกมที่ถนัดที่สุด

เรื่องรีสตาร์ต หากจะดำเนินการรัฐคงทำเป็นขั้นเป็นตอน ค่อยๆ ผ่อน เปิดทีละล็อก

หากยังจำกันได้ แม้รัฐธรรมนูญ 60 บังคับใช้ แม้กฎหมายลูกฉบับต่างๆ มีผลแล้ว แต่กว่าพรรคการเมือง จะประชุมได้ เคลื่อนไหวได้นั้น ไม่ใช่ทันทีทันใด แต่ค่อยเป็นค่อยไป ทีละอย่าง ตั้งหลายเดือนถึงเต็มรูปแบบ

ใครที่คิดว่า จะมีการยกเลิก พ.ร.ก.เร็ววัน

อาจเป็นแค่ฝัน

เรื่องจริง รัฐบาลเขาแฮปปี้ เกมปิดประตูบริหารบ้านเมืองในสถานการณ์ฉุกเฉิน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image