| ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
|---|
บ้านเมืองนับถอยหลัง กลับคืนสู่ความเป็นปกติมากขึ้นทุกขณะ
รัฐผ่อนปรนเปิดกิจการ/กิจกรรมแบบมีเงื่อนไข เฟส 1 ไปแล้ว
ระยะที่ 2 จ่อคิว 3-4 มีไทม์ไลน์ดำเนินการตามมา
แต่แม้ในที่สุดเปิด 100% เต็ม เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดลดลง ประเทศควบคุมให้อยู่ในระดับที่ระบบสาธารณสุขรองรับได้ ระหว่างรอการคิดค้น วิจัยยารักษา
แต่ โลกใหม่หลังโควิด ยังห่างไกลโลกก่อนระบาดมากนัก
เศรษฐกิจบอบช้ำ พังพินาศ เสียหาย
มีการคาดการณ์กันว่า การล็อกดาวน์ ชัตดาวน์ สกัดกั้นโรคร้าย จำกัดการเดินทางของผู้คน ส่งผลเศรษฐกิจโลกถดถอยครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
บางประเทศที่พื้นฐานอ่อนแอ อาจถึงขั้นล่มสลาย ตลาดการเงินพังทลาย
แม้แต่ ประเทศที่พื้นฐานทางเศรษฐกิจแข็งแกร่ง ก็อาจต้องใช้เวลาเป็นปี หรือหลายปี กว่าจะฟื้นตัว กลับสู่ภาวะปกติ
ประเทศไทย จัดอยู่ในกลุ่มใด ของการจัดเกรด แบบหยาบๆ ในหมู่ประเทศที่เผชิญปัญหาเดียวกัน กว่า 200 ประเทศทั่วโลก?
ก่อนการระบาดหนัก แพร่หลาย ทั่วโทก
ไม่ว่าเกิดสถานการณ์ใดที่กระทบต่อเศรษฐกิจ รัฐมักโฆษณา อวดอ้าง ไทยเป็นประเทศที่มีพื้นฐานดี หนี้สาธารณะต่ำ ทุนสำรองระหว่างประเทศสูง
พร้อมกับยกตัวเลขยืนยัน
แต่พื้นฐานเศรษฐดีที่ว่านั้น จะมั่นคง ลดทอนผลกระทบได้มากน้อยเพียงใด
เมื่อเผชิญกับมหาวิกฤตที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ยังเป็นคำถาม
หรือว่า รับมือไม่ได้เลย
เพราะแม้แต่ประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ อย่างสหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดีก็ยอมรับว่า โควิด-19 ส่งผลกระทบเลวร้ายกับสหรัฐมากกว่าทุกเหตุการณ์ สั่นสะเทือนรุนแรงกว่าสมรภูมิเพิร์ลฮาร์เบอร์ สาหัสสากรรจ์ยิ่งกว่าวินาศกรรม 9/11
ธนาคารกลางอังกฤษชี้ว่า ผลกระทบการแพร่ระบาด อาจทำให้เศรษฐกิจตกต่ำหนักหน่วงที่สุดในรอบกว่า 300 ปี
ผลพวงจากการระบาดครั้งนี้ มิได้มีโดยตรง แต่เพียงต่อด้านเศรษฐกิจเท่านั้น
นักวิชาการไทย นักวิเคราะห์ต่างชาติ มองตรงกันว่า
ในที่สุดแล้ว พิษไวรัสมรณะที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจ จะกลายเป็นปัญหาการเมืองอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
เนื่องจากเมื่อกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม ปากท้องความเป็นอยู่
ประชาชนย่อมจะไม่พอใจรัฐบาลที่แก้ปัญหาไม่ได้
ดีกรีความรุนแรง ขึ้นอยู่กับความสามารถในการจัดการ บรรเทาปัญหา รัฐบาลประเทศใดลดความเดือดร้อน หรือผลกระทบได้มาก แน่นอนผลกระทบจะไม่ถูกยกระดับเป็นปัญหาการเมือง
แต่ในรายที่จัดการได้ไม่ดี ประชาชนอาจเสื่อมศรัทธา ลุกฮือประท้วงขับไล่ กระทั่งไม่สามารถอยู่ได้
ผลพวง พิษภัยจากโควิด รังแต่จะทำให้รัฐบาลอ่อนแอ เพียงแต่จะมากหรือน้อยเท่านั้น ซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ
แต่ที่แน่นอนคือ ไม่ปรากฏด้านดี ส่งผลบวกต่อการบริหาร ต่อคะแนนนิยมเลย
รัฐบาลไทยประสบปัญหาใหญ่เช่นเดียวกับรัฐบาลอีกหลายประเทศทั่วโลก
ฝ่ายการเมือง นักวิชาการ ใครต่อใคร ฟันธงเมื่อฝุ่นควันโควิดจาง ปัญหาตกค้าง เศรษฐกิจที่อ่อนแอ เสื่อมทรุดแก้รวยกระจุกไม่ตก มาแต่เดิมก่อนระบาด จะกลับมาเขย่ารัฐบาลอีกครั้ง
อาจแรงหลายเท่าทวีคูณ
ถูกบีบคั้นทั้งจากทุนใหญ่ฐานบน และฐานล่างประชาชนคนส่วนใหญ่
มองจากปัญหา ขวากหนามขวางกั้น
ปัญหาเศรษฐกิจนี่แหละ จะเป็นปัจจัย ชี้ขาดรัฐบาล
แต่ในความเป็นจริง อาจหนังคนละม้วน
ประเทศไทย แตกต่างจากประเทศเสรีประชาธิปไตยทั่วไป
เปลี่ยนรัฐบาล โดยใช้กระบวนการเลือกตั้ง ยังไม่อาจทำได้ เนื่องจากกติกาดีไซน์พิเศษ
ลุกฮือก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้
รัฐบาลที่มีผู้นำเป็นอดีต ผบ.ทบ. นำก่อการรัฐประหาร คงไม่ยอมให้ใครมาล้มรัฐบาลประชาธิปไตย มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเด็ดขาด
โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว
