สถานีคิดเลขที่12 โดย วรศักดิ์ ประยูรศุข : เมื่อสภาล่ม

เรียกว่าเริ่มมีอาการ

นักข่าวสภา ส่งข่าวมาว่า เกิดเหตุการณ์สภาล่ม เมื่อวันพุธที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา

ลำดับเหตุการณ์ ดูเหมือนไม่มีอะไรมาก

เริ่มประชุมเช้าตามปกติ ประธาน ชวน หลีกภัย ขึ้นนั่งบัลลังก์ ช่วงแรก เป็นการปรึกษาหารือของ ส.ส.

Advertisement

จากนั้นเข้าสู่วาระการพิจารณารับทราบต่างๆ

มาเป็นเรื่องตอนรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศตามมาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เดือน ต.ค.-ธ.ค.2562)

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นอภิปรายว่า ไม่เห็นด้วยกับรายงานการปฏิรูปฉบับดังกล่าว เนื่องจากข้อมูลไม่ครบถ้วน จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับไปทำรายงานให้ครบถ้วนสมบูรณ์

นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย เสนอให้ประธานตรวจสอบองค์ประชุมก่อน เนื่องจากเห็นว่ามีสมาชิกอยู่ในห้องประชุมไม่ครบ

อีกทั้งการพิจารณาการดำเนินการตามแผนปฏิรูปประเทศ เป็นเรื่องสำคัญ จึงอยากให้สมาชิกทั้ง ส.ส.และคณะรัฐมนตรีเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นและเสนอแนะในเรื่องสำคัญของประเทศด้วย

นายชวนต้องเรียกสมาชิกแสดงตัว ให้วิปรัฐบาลเรียกบรรดา ส.ส.ที่ไปประชุมกรรมาธิการอื่นๆ มาเข้าห้องประชุมเป็นการด่วน

เวลาผ่านไปพอสมควร ตรวจสอบองค์ประชุม ปรากฏว่า 231 คน ไม่ถึงกึ่งหนึ่งของที่ประชุมทั้งหมดคือ 244 คน ไม่สามารถประชุมต่อไปได้

ประธานชวนสั่งปิดประชุมในเวลา 13.15 น.

สาเหตุจริงๆ ที่สภาล่มมาจากอะไร เป็นอุบัติเหตุ หรือเหตุอื่น ทางวิปรัฐบาลคงทราบดีกว่าใคร และคงจะต้องหาวิธีการแก้ไขกันไป

ที่แน่ๆ ไม่ใช่เรื่องดี เพราะงานหลักของสภา คือการประชุม แน่นอนว่า นอกจากประชุมสภาแล้ว ยังมีประชุมกรรมาธิการสามัญ วิสามัญ อนุกรรมาธิการ และอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย

อย่างระยะนี้ คือการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯปี 2564 ซึ่งจะต้องประชุมยาวไปจนกว่าจะเสร็จเพื่อเข้าวาระสองและสาม

เรียกว่างานหนัก ไหนยังต้องลงพื้นที่ หรืองานติดต่อ สารพัดอีก แต่เมื่อตัดสินใจ
ก้าวมาเป็นตัวแทนประชาชนแล้ว ยุ่งยากยังไงก็ต้องบริหารจัดการให้ลงตัว

เมื่องานหลักเป็นปัญหาอย่างนี้ ถือเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทั้งสภา ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล

ที่น่าห่วงมากกว่าคือ รัฐบาล ซึ่งถือเป็นตัวแทนฝ่ายข้างมากจากสภา

ประธาน รองประธาน ก็มาจากพรรครัฐบาลทั้งหมด

ถ้าไม่สามารถดูแลให้สภาดำเนินการประชุมได้ อาจจะกลายเป็นปัญหาใหญ่เข้าสักวัน

เหตุการณ์สภาล่ม นัยยะหนึ่ง ถือเป็นสัญญาณเตือนไปยังฝ่ายบริหาร คือรัฐบาลเข้าแล้ว

ส่วนเตือนว่าอย่างไร เป็นเรื่องที่ต้องไปถอดรหัสกันเอาเอง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image