สถานีคิดเลขที่ 12 : อยู่เหนือการเมือง :โดย จำลอง ดอกปิก

สถานีคิดเลขที่ 12 : อยู่เหนือการเมือง :โดย จำลอง ดอกปิก

สถานีคิดเลขที่ 12 : อยู่เหนือการเมือง :โดย จำลอง ดอกปิก

ถ้อยแถลงผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยเมื่อค่ำวันพฤหัสบดี
เป็นท่าทีอย่างเป็นทางการล่าสุด ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มีต่อ สถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบัน
ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ผลกระทบรุนแรงจากโรคโควิด-19 แพร่ระบาด

ที่รัฐบาลต้องบริหารจัดการแก้วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ดำรงอยู่ และแพร่ขยายอย่างกว้างขวางยิ่งกว่าเชื้อไวรัสมรณะ รวมถึงพิษสง ที่ยังคายออกมาไม่หมดสิ้น จากปัญหาหนี้สิน ที่รัฐสั่งพัก อุ้มพยุงไว้ และเมื่อมาตรการเยียวยา ช่วยเหลือประชาชน ภาคส่วนต่างๆ สิ้นสุด

นายกฯชี้ว่า เป็นภัยร้ายแรงต่อการดำรงชีวิตของประชาชน ไม่แพ้เรื่องสาธารณสุข
ต้องเยียวยา แก้ปัญหา ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ประชาชนตกงาน เป็นเบื้องต้น

อีกประเด็นสำคัญ ที่บิ๊กตู่พูดถึง คือปัญหาการเมืองยืดเยื้อเรื้อรัง สังคมแตกแยกแบ่งฝักฝ่าย ความยุติธรรมในสังคม ความเสมอภาคภายใต้กฎหมายเดียวกัน ความเท่าเทียมกันในการเข้าถึงโอกาสที่จะทำชีวิตของตัวเองให้ดีขึ้นได้ และมีโอกาสที่จะแสดงศักยภาพของตัวเอง

Advertisement

นายกฯเรียกร้อง ร่วมกันให้คำนิยามการเมืองแบบใหม่ และทำลายการเมืองแบบเดิมที่แบ่งแยก ปฏิเสธความเกลียดชัง

ยอมรับความเชื่อที่แตกต่าง ความเห็นต่างระหว่างคนรุ่นใหม่-คนรุ่นเก่า คนรวย-คนจน ต้องอยู่เหนือการโต้เถียงกัน อยู่เหนือการเมือง
“หนทางเดียว ก็คือการจับมือกัน และทำงานด้วยกัน เพื่อสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประเทศของเรา” พล.อ.ประยุทธ์สรุปปิดท้าย
แถลงการณ์ของนายกฯ ได้รับคำชมจากใครต่อใครว่าดี ครอบคลุมปัญหาบ้านเมืองปัจจุบัน

ที่ว่าดีนั้น ด้านหนึ่งคงเป็นเพราะท่าที ที่เปลี่ยนไป
โดยเฉพาะเรื่องการเมือง แม้ว่ายังไม่สามารถสรุปอะไรได้ทั้งสิ้น
ต้องรอดูภาคปฏิบัติ เป็นเครื่องพิสูจน์ เรื่องปากกับใจ ไม่พูดอย่าง ทำอย่าง

Advertisement

แต่ที่สัมผัสได้ผ่านแถลงการณ์นั้น สิ่งหนึ่งที่แน่นอนต่างกับในอดีต คือความคิด ความเห็น ที่บิ๊กตู่มีต่อฝ่ายการเมือง ต่อเสียงเห็นต่าง ต่อความเคลื่อนไหวของคนในอีกเจเนอเรชั่น

เดิมนั้น ถูกมองว่าเลือกข้าง ทำตัวเป็นคู่กรณี ฝ่ายการเมืองตรงกันข้าม ที่ใช้กำลังโค่นล้ม
มิได้ยืนอยู่เหนือการเมือง ในฐานะผู้นำฝ่ายบริหาร อีกทั้งยังเป็นผู้นำที่มีที่มาจากการรัฐประหาร ในนามของการเข้ามาแก้ปัญหาหย่าศึกความขัดแย้งแบ่งฝ่าย
มิได้เป็นคนกลางยืนอยู่เหนือการเมืองอย่างแท้จริง
ท่าทีที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าตื้นลึกหนาบางเป็นอย่างไร
แต่ในทางสาธารณะนับว่าเป็นเรื่องดี

อย่างน้อยก็ลดทอนบรรยากาศตึงเครียดการชุมนุมลดเผชิญหน้า

ที่ดีอีกประการ จุดประกายความหวัง มองเห็นทางออกแก้ปัญหา ก็คือแถลงการณ์ล่าสุดนั้น เป็นการยอมรับปัญหาที่มีอยู่จริง และต้องแก้ไข อีกทั้งยังเป็นปัญหาร่วม โจทย์ร่วมของคนทั้งประเทศ ที่ต้องฝ่าข้ามให้ได้

ปัญหาหลัก โรคร้ายอย่างหนึ่ง ของผู้นำประเทศ

คือเห็นเรื่องที่สังคมเห็นว่าเป็นปัญหาฉุดรั้ง บั่นทอนประเทศไม่เป็นปัญหา หรือไม่ใช่ปัญหาใหญ่ที่ต้องได้รับการแก้ไข

ปัญหาการเมือง เรื่องที่สังคมเรียกร้องในวันนี้ เรื่องแก้รัฐธรรมนูญให้มีเนื้อหามาตรฐาน เรื่องความยุติธรรมในสังคม ความเสมอภาคภายใต้กฎหมายเดียวกัน เป็นปัญหาที่ดำรงคงอยู่ของประเทศไทย ไม่แก้ไม่ได้

แน่นอนความยาก-ง่ายแต่ละเรื่องไม่เท่ากัน

แต่หากเรามองไม่เห็นเป็นปัญหาร่วมกัน ก็ไม่มีทางที่จะริเริ่ม คิดอ่านแก้ไข ซุกปัญหา ซุกความขัดแย้งเอาไว้ต่อไป
หนำซ้ำยังมองคน ฝ่ายเห็นต่าง มีวาระในการเคลื่อนไหว
แต่เมื่อใดก็ตามที่เปิดใจกว้าง รับฟัง เปิดโลกทัศน์ใหม่
เห็นปัญหาที่คนจำนวนมากมองเห็นเป็นปัญหาเหมือนกัน

ว่าเป็นปัญหาร่วม

จำเป็นต้องได้รับการแก้ไข

ความร่วมไม้ร่วมมือ จับมือทำงานด้วยกัน ที่นายกฯเรียกร้อง ชี้ว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับประเทศไทยก็อยู่ไม่ไกล

แต่จะเริ่มจากไหนหากไม่ใช่ที่นายกฯ

จำลอง ดอกปิก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image