| ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
|---|
อนาคตจะเป็นอย่างไร ไม่รู้
แต่ปัจจุบัน คงต้อง ชูป้ายหนุน พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ไปก่อน
ที่ชิงชัตดาวน์ กระแส “ปลุกรัฐประหาร”
จากที่เคยบอกว่า โอกาสเป็นศูนย์ และตอนนี้ บอกถอยหลังไปอีกว่า โอกาส “ติดลบ”
ท่าทีเช่นนี้ช่วยปรามมวลชนบางส่วน ที่คิดอะไรไม่ออก กวักมือเรียกทหารให้แหกค่ายออกมายึดอำนาจทุกที
และก็ทุกทีนั่นแหละ ฉุดกระชากลากถูประเทศ ให้ถอยหลังเข้าคลอง จนหาทางออกแม่น้ำอันกว้างใหญ่ไม่ได้เสียที
จึงถูกต้อง ที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ มีจุดยืน การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง
ซึ่งก็หวังว่า จุดยืนนี้จะมั่นคงตลอดไป
พูดถึงทหารและกองทัพแล้ว ก็ขอร่วมแสดงความห่วงใย
กรณีทหารเกาหลีตรวจพบเชื้อโควิด-19 หลังกลับจากประชุมการฝึกคอบร้าโกลด์ ในไทย
โดยหวังว่า ทหารทั้ง 3 เหล่าทัพ 181 นาย รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ท่าอากาศยาน เจ้าหน้าที่ศุลกากร เจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐ เจ้าหน้าที่โรงแรม รวมๆ กว่า 200 คน คงไม่ติดหรือเป็นแหล่งแพร่ “ใหญ่” ของไวรัสโควิด-19 ทำให้กองทัพเสียชื่อดังกรณีสนามมวยอีก
ที่แฉลบมาถึงตรงนี้
นอกจากความห่วงใยเรื่องโควิด-19 ที่ว่าแล้ว
ยังอยากพูดถึง การฝึกร่วมคอบร้าโกลด์ สักนิด
ด้วยเห็นอดีตนักร้องดัง นำมวลชนจำนวนหนึ่ง ไปแสดงสัญลักษณ์การเมือง ด้านหน้ารัฐสภา เพื่อต่อต้านคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนจากไอลอว์
ชูโปสเตอร์ “ต่อต้าน 10 ข้อเสนอ ล้มล้างสถาบัน ปฏิรูปซ่อนเร้น” “หยุดร่างรัฐธรรมนูญฉบับโซรอส”
กล่าวหาไอลอว์รับเงินต่างชาติ โดยเฉพาะจากสหรัฐ ซึ่งตอนนี้กลายเป็น “ผู้ร้าย” ของปีกอนุรักษ์ และนิยม “ขวา” ในไทย
ทั้งแทรกแซงกิจการภายใน ด้วยการจะทำลายสถาบันหลักของชาติ รวมทั้งอาจจะเป็นแหล่งพักพิงให้กับแกนนำ “ล้มเจ้า” ที่เตรียมไปลี้ภัย
แม้ทั้งสถานทูตสหรัฐประจำประเทศไทย จะชี้แจงเป็นทางการว่าเป็นเท็จ
และไอลอว์ก็ชี้แจงว่าการรับทุนต่างชาติถือเป็นเรื่องปกติของเอ็นจีโอส่วนใหญ่ในประเทศ แต่เจ้าของเงินไม่ได้มาครอบงำหรือกำหนดวาระว่าจะต้องทำหรือไม่ทำอะไร
แต่ดูเหมือนก็ไม่อาจหยุดกระแส “ปีศาจร้ายสหรัฐ” ไปได้
จึงน่าคิดว่า หากสหรัฐร้ายกาจ มุ่งทำลายสถาบันหลักของชาติเช่นนั้นจริง
แล้วการที่กองทัพไทยเปิดประตูให้สหรัฐเข้ามาร่วมฝึกคอบร้าโกลด์ จนกลายเป็นวาระประจำปีของกองทัพไทย ซึ่งไม่ใช่แค่ปีสองปี
แต่ต่อเนื่องยาวนานมาตั้งแต่ปี 2525
ว่ากันว่า ความลับความมั่นคงทางยุทธศาสตร์ แทบทุกตารางนิ้วของไทยอยู่ในมือสหรัฐนมนานแล้ว
ขณะเดียวกัน จีน รัสเซียและฝ่ายตรงข้ามสหรัฐ มองว่ากองทัพไทย คือ “ผู้ใต้บังคับบัญชา” ของสหรัฐ มาแต่ไหนแต่ไรเช่นกัน
แล้วหากสหรัฐเป็นภัยต่อชาติ ต่อสถาบัน อย่างที่มีการชูป้ายกันสลอนตอนนี้
เรายังจะพึ่งพาสหรัฐอยู่ได้อย่างไร
มิต้องบุกไปกองทัพ เพื่อยื่นข้อเสนอให้ไทยเลิกคบกับสหรัฐหรอกหรือ
การฝึกร่วมคอบร้าโกลด์ ก็ต้องสมควรเลิก เพราะล้วงตับความมั่นคงไปหมดแล้ว และทำให้จีน “มหามิตรใหม่” ไม่พอใจ
เอ็นจีโอก็ต้องห้ามรับเงินต่างชาติ
นี่จึงเป็นความประดักประเดิด
ที่ต้องย้อนถามฝ่ายอนุรักษ์และฝ่ายขวา ว่าจะเอาอย่างไร
หรือต้องกลับไปรูปแบบเดิมๆ คือ มีหลายมาตรฐาน
อันไหนมีประโยชน์ถึงจะใช้หรือเลือก!
สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร
