โควิดระลอกสอง

การตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนเกิน 500 ราย โดยมีพื้นที่การแพร่ระบาดหลักอยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร ได้บ่งชี้ถึงปัญหาบางอย่างแน่ๆ

และย่อมเป็นหน้าที่รัฐบาลซึ่งจะต้องวิเคราะห์หาสาเหตุของชุดปัญหา
ดังกล่าว

ด้านหนึ่ง ทุกฝ่ายดูจะยอมรับว่าปัญหาการควบคุมคนลักลอบเข้าเมือง โดยเฉพาะที่ผ่านทางพรมแดนธรรมชาติ นั้นมีอยู่จริง

ภาครัฐจำเป็นต้องประมวลข้อมูลว่าทำไมปัญหานี้จึงเกิดขึ้น? มีความย่อหย่อนในการปฏิบัติงานตรงจุดไหน? และจะแก้ไขข้อบกพร่องได้อย่างไร?

Advertisement

อีกด้านหนึ่ง ไม่ว่าแรงงานต่างชาติจากประเทศเพื่อนบ้านจะเป็นปัจจัยสำคัญในปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นหรือไม่ อย่างไรเสีย คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยจำเป็นต้องพึ่งพาผู้ใช้แรงงานกลุ่มดังกล่าว

การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่สมุทรสาคร อาจเป็นโอกาสให้เราได้กลับมาทบทวนมาตรการต่างๆ เกี่ยวกับสวัสดิการ ความเป็นอยู่ และคุณภาพชีวิตของทรัพยากรบุคคลเหล่านี้ ว่ามีจุดอ่อน-ความเหลื่อมล้ำซ่อนอยู่ตรงจุดใดบ้าง?

นี่คือหนทางที่ควรจะเป็น มากกว่าการเกิดอคติเหยียด-กลัวต่อแรงงานต่างชาติเหล่านั้น

Advertisement

อีกคำถามสำคัญ คือ รัฐบาลจะยังเลือกประเมินอัตราการแพร่ระบาดของโควิด จากแนวทาง ไม่ตรวจก็ไม่เป็นŽ อยู่เหมือนเดิมหรือไม่? (ครั้นพอสุ่มตรวจที จำนวนผู้ติดเชื้อก็พุ่งไปถึงหลักครึ่งพัน) หรือจะต้องมีการตรวจหาเชื้อเชิงรุกอย่างครอบคลุม ในปริมาณกลุ่มตัวอย่างที่เพิ่มมากขึ้น

จึงเห็นได้ว่าการกลับมาแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบสองในประเทศไทย
น่าจะเกิดจากปัญหาเชิงโครงสร้าง ปัญหาของการทำงานโดยภาครัฐ มากกว่าจะเป็นปัญหา การ์ดตกŽ ของใครคนใดคนหนึ่งหรือประชาชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น

อีกชุดคำถามสำคัญที่ตามมา ก็คือ เราจะเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอย่างไร?

ในแง่การป้องกันโรค ดูเป็นเรื่องน่าแปลกใจและควรตั้งคำถามอยู่ไม่น้อย
ที่โรงพยาบาลในพื้นที่แพร่ระบาดยังต้องประกาศรับบริจาคหน้ากากอนามัยกันอยู่

ในบริบทที่รัฐมีงบประมาณบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งเก็บจากเงินภาษี
ของประชาชน โดยยังไม่ได้ประสบภาวะถังแตก (และมีเรื่องราวให้
ชาวบ้านได้ติฉิน-ท้วงติงการใช้งบประมาณภาครัฐไปกับอะไรก็ไม่รู้อยู่เกือบตลอดเวลา)

ขณะเดียวกัน ในห้วงเวลาที่การแพร่ระบาดรอบใหม่ก่อตัวขึ้น รัฐคงต้องอธิบายให้ชัดเจนว่า ทำไมวัคซีนป้องกันโควิด-19 ล็อตแรก จึงจัดเตรียมไว้สำหรับประชาชน 13 ล้านคน ไม่ใช่ประชาชนทุกคน?

ท้ายสุด ถ้ามีการล็อกดาวน์รอบสองในวงกว้าง รัฐบาลต้องให้ความกระจ่างชัดว่าจะ ปิดเมืองŽ กันถึงระดับไหน?

การเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ การกระตุ้นให้ประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอย การแก้ปัญหาการว่างงาน และการสร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจในภาพรวม จะได้รับผลกระทบเพียงใด? และได้รับการประคับประคองอย่างไร?

ไปๆ มาๆ จากที่ทุกคนแอบหวังว่าจะได้อำลา ปีหนักๆŽ ปีนี้ อย่าง ซอฟต์ๆŽ

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงสิบวันสุดท้ายของเดือนธันวาคมอาจบ่งบอกว่าเรื่องราวคงไม่ได้ดำเนินไปตามใจหวังเสียแล้ว

ปราปต์ บุนปาน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image