สถานีคิดเลขที่ 12 : ล้มเหลว!

สถานีคิดเลขที่ 12 : ล้มเหลว!

สถานีคิดเลขที่ 12 : ล้มเหลว!

เศรษฐกิจของประเทศไม่ดีมาตั้งแต่เมื่อครั้งรัฐบาล คสช. บริหารประเทศ
สืบทอดกระทั่งปัจจุบัน

หากนับเอาตัวเลขการเติบโตเป็นที่ตั้ง จริงอยู่ แม้ 5 ปี ยุค คสช. นับจาก 2558 จีดีพีขยับมาอยู่ที่เฉลี่ย 3.7% สูงกว่า 2 ปีก่อนหน้า ที่ระดับ 2.7 และ 1.0% แต่ก็เป็นเพราะ ก่อนรัฐประหาร ประเทศเผชิญปัญหาความวุ่นวาย ชุมนุมการเมือง ประท้วงขับไล่รัฐบาล ปิดสถานที่ต่างๆ

ตัวเลขร้อยละ 3.7 จึงไม่น่าพึงพอใจนัก เมื่อเทียบกับเฉลี่ยที่ 5% อัพ ในห้วงปี 2545-2550

Advertisement

และเมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาค ขนาดเศรษฐกิจใกล้เคียงกัน

ก็ยิ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์

เศรษฐกิจของแต่ละประเทศ ขึ้นอยู่ ผูกพันกับภาวะเศรษฐกิจโลก

Advertisement

ขาขึ้น ทุกประเทศขึ้นหมด ขาลงก็เช่นกัน

แต่ขึ้นมากขึ้นน้อย ขึ้นอยู่กับนโยบาย-ฝีมือการบริหารของรัฐบาลแต่ละประเทศ

ขณะนี้ทุกประเทศทั่วโลกได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19

เศรษฐกิจโลกทรุด แต่ละประเทศซบเซาไปตามๆ กัน

รวมถึงประเทศไทย

ความรุนแรง มาก-น้อย ขึ้นอยู่กับพื้นฐานเศรษฐกิจ และความสามารถในการรับมือ

เบาะรองกันกระแทกของแต่ละประเทศ

พิษร้ายผลพวงโควิดระบาดเป็นข้อจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า เป็นตัวการ ทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ

แต่ไทย และน่าเชื่อได้ว่ามีรัฐบาลอีกหลายประเทศเช่นกัน

ก็ได้พึ่งพาใบบุญโควิด เป็นวัคซีน ปกป้องทางการเมือง

โทษไวรัสมรณะ ตัวการทำเศรษฐกิจเสื่อมทรุด กลบเกลื่อนประสิทธิภาพการบริหารราชการแผ่นดินของตัวเอง

แม้ไม่ผิด แต่มิใช่ทั้งหมด

แต่อีกด้าน โควิด ก็ทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่น ในประสิทธิภาพบริหารและความไม่พอใจต่อรัฐบาล

ในหลายประเทศ อาทิ อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ อังกฤษ ออสเตรเลีย บราซิล

ประเทศไทยมีชื่อติดทำเนียบลำดับต้นของโลก ได้รับเสียงชื่นชมในการสกัดกั้นควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วในระยะต้น

แต่ในที่สุด โควิดก็ได้เปิดโปงให้เห็นถึงประสิทธิภาพการบริหาร

เป็นภาพความล้มเหลว กรณีการจัดการบ่อนพนัน และแรงงานต่างด้าว ต้นตอการระบาดรอบใหม่

เรื่องท้าทายต่อไป คือการแก้ไขปัญหาที่ตัวโรคระบาดเองโดยตรง บทพิสูจน์ฝีมือของแท้ ของเทียม ครั้งแรกนั้นเก่ง หรือเฮง

อีกเรื่อง ก็คือการแก้ปัญหาบ่อนพนัน จัดแถวจัดการข้าราชการคอร์รัปชั่น ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ เกื้อกูลหลงจู๊ ผู้ประกอบการธุรกิจมืด

เศรษฐกิจประเทศตกสะเก็ด ซบเซามาแต่ครั้งรัฐบาล คสช.บริหารประเทศ

นายกรัฐมนตรีวันนั้น ซึ่งคือคนปัจจุบันในวันนี้ โทษนักการเมือง อ้างในวาระหนึ่ง ทำนองว่า

การที่เศรษฐกิจหด ฝืดเคือง เป็นเพราะรัฐบาลและ คสช. ปราบปรามการทุจริต จัดระเบียบสังคม บังคับใช้กฎหมายเคร่งครัด ส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนในระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากเม็ดเงินจากการประกอบธุรกิจสีเทา บ่อน ซ่อง หวยใต้ดิน ซึ่งเดิมมีเป็นจำนวนมาก เมื่อมีการปราบปรามอย่างหนัก ก็มีผลสะท้อนทางลบ

ครั้งนั้น มีผู้รู้ นักวิชาการโต้แย้ง บ่อน ซ่อง หวยใต้ดินไม่เกี่ยวกับจีดีพีแม้แต่น้อย

แต่ก็ไม่มีใครสักคน ต่อต้านคัดค้านการปราบปรามธุรกิจสีเทา สีดำ

ทั้งที่ก็ไม่เชื่อน้ำยา ตีค่าแค่คำแก้ตัว

เศรษฐกิจแย่ ไม่เกี่ยวกับธุรกิจสีเทาเบ่งบาน แต่ผูกพันเศรษฐกิจโลกและขึ้นอยู่กับฝีมือบริหาร

แต่การบริหารจัดการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจลำพังว่าไม่ง่ายแล้ว

เรื่องผลกระทบใหญ่หลวงจากโควิดกลับยากยิ่งกว่าเป็นเท่าทวี เนื่องจากเป็นเรื่องใหม่ของโลก ที่ยังไม่มีองค์ความรู้แก้ไข คลี่คลายแต่อย่างใด

แต่ถ้าเรื่องบ่อน เรื่องแรงงานต่างด้าวพื้นๆ ง่ายๆ ยังล้มเหลว

เราจะฝากผีฝากไข้การแก้ปัญหาเศรษฐกิจกับใครได้ ในเลเวลที่ยากกว่าขั้นสุดแบบนี้

โดย : จำลอง ดอกปิก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image