สถานีคิดเลขที่12 : ‘เกม’หลังซักฟอก

การลงมติซักฟอก 10 รัฐมนตรี แม้ผ่านตามคาด

แต่เชื่อว่าคงมีอาฟเตอร์ช็อก

ด้วยก่อนหน้ามีข่าวชุดหนึ่งถูกปล่อยออกมา

อ้างมาจากพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า

Advertisement

“…หลังมีกระแสข่าว ส.ส.จะโหวตให้คะแนนแก่นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ กับนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน น้อยที่สุด

ล่าสุดนายณัฏฐพลและนายสุชาติ ได้ประสานขอเสียงสนับสนุนจาก ส.ส.กลุ่มต่างๆ ในพรรค

โดยเฉพาะกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ ที่มีมากที่สุดประมาณ 40 เสียง

Advertisement

รวมถึงกลุ่มสามมิตรของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ที่มีประมาณ 30 เสียง เพื่อความอุ่นใจให้คะแนนออกมาใกล้เคียงกัน จนเจรจากันลงตัวเป็นที่เรียบร้อย คะแนนแต่ละคนจะออกมาสูสี

โดย ร.อ.ธรรมนัสยังได้ประสานไปยังพรรคเล็กให้ช่วยลงมติด้วย

นอกจากนี้ แกนนำแต่ละกลุ่มในพรรค ต้องการเอาใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรค โดยจะโหวตให้ พล.อ.ประวิตร ได้รับเสียงไว้วางใจมากที่สุด รักษาแชมป์เป็นครั้งที่สอง

รายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังการอภิปราย ไม่ไว้วางใจเสร็จสิ้น แกนนำบางกลุ่มในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะเคลื่อนไหวกดดันให้เกิดการปรับ ครม.

โดยผลักดันแกนนำในกลุ่มที่เป็น รมช.ได้ขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการ และเปิดตำแหน่ง รมช.ให้กับกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มภาคใต้ ที่ยังไม่มีสัดส่วนรัฐมนตรี

ทั้งนี้ ต้องจับตาผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 3 หากชนะจะทำให้กลุ่มภาคใต้มีเสียงในมือมากขึ้น ถึง 14 เสียง เข้าเกณฑ์ได้โควต้ารัฐมนตรี 1 ตำแหน่ง…”

ข่าวนี้ให้เบาะแสอะไรบางอย่างที่น่าสนใจ

ด้วยมันสะท้อนการขับเคลื่อน “เกมแห่งอำนาจ” ใน พปชร.ชัดเจน

ซึ่งดูเหมือนในระยะหลัง มีการระบุว่าบุคคลที่โดดเด่นในการกำหนดเกมหลายๆ อย่าง คือ ร.อ.ธรรมมนัส

สอดคล้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นในศึกซักฟอกครั้งนี้

ที่ ร.อ.ธรรมนัสถูกซักฟอกเบาที่สุด น้อยที่สุด แถมยังได้คะแนนไว้วางใจสูง เทียบเท่า พล.อ.ประวิตร และมากกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสียอีก

ทำให้น่าจับตามองหลังจากนี้ นั่นคือกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี

อย่างที่ข่าวให้เบาะแสข้างต้น ว่ามีแกนนำบางกลุ่มใน พปชร.เคลื่อนไหวกดดันให้เกิดการปรับ ครม. โดยผลักดันให้ รมช.บางคนได้ขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการ

ซึ่งไม่ทราบว่า จะเกี่ยวข้องกับความโดดเด่น ของ รมช.เกษตรฯ ของ ร.อ.ธรรมนัส รวมถึง รมช.อีกบางคนในทีมงานที่แวดล้อมหัวหน้าพรรคหรือไม่

แต่นายณัฏฐพล กับนายสุชาติ ที่มีข่าวตั้งแต่ต้นว่าจะได้คะแนนน้อยและก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ คงร้อนๆ หนาวๆ

เพราะถูกเขย่าเก้าอี้หนักแน่

และที่น่าติดตามอย่างระทึกใจ นั่นก็คือ ในข่าวระบุเงื่อนไขการปรับคณะรัฐมนตรี จะโยงไปถึงผลการเลือกตั้งซ่อมที่ จ.นครศรีธรรมราช ด้วย

นั่นคือหาก ส.ส.ภาคใต้ พปชร.ได้โควต้าเพิ่มขึ้นอีก 1 เก้าอี้เป็น 14 เก้าอี้ ก็มีโอกาสลุ้นนั่ง รัฐมนตรี

นี่ย่อมเป็นแรงผลักดันให้ ส.ส.ใต้และฝ่ายสนับสนุนจะต้องคว้าชัยให้ได้

ซึ่งนั่นก็หมายความ ว่าต้องเปิดศึกกับพรรคร่วมรัฐบาล อย่างประชาธิปัตย์ อย่างเต็มตัวและเต็มแรง

อันอาจจะนำไปสู่ การแตกร้าวในพรรคร่วม ได้ไม่ยาก

ยิ่งคะแนนไว้วางใจของหัวหน้าประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ออกมาไม่ดี กลายเป็นจุดอ่อน

คงถูกขยายผลในทาง “ร้าย” หนักแน่

อาจไม่ใช่แค่เก้าอี้รัฐมนตรี ยังอาจลามไปถึงเก้าอี้หัวหน้าพรรคด้วย

นี่คือ “เกม” ที่อาจ “ถูกกำหนด” ให้เกิดขึ้นหลังศึกซักฟอก

ชวนระทึกใจยิ่ง

สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image