สถานีคิดเลขที่12 : กะแยง บ่ หอม

คนรุ่นปัจจุบัน โดยเฉพาะคนอีสาน หากมีอารมณ์โรแมนติก หอม ผักกะแยง

คงหอมไปกับละครทีวีทางช่อง 3 “มนต์รักหนองผักกะแยง” ที่เรตติ้งกำลังดีตอนนี้

ส่วนคนรุ่นกลาง-รุ่นเก่า

หาก จะหอม ผักกะแยง

Advertisement

ย่อมต้อง ไม่พ้น เพลง “อีสานบ้านเฮา” ของ “เทพพร เพชรอุบล” เป็นแน่แท้

“…หอมดอก ผักกะแยง / ยามฟ้าแดง ค่ำลงมา / แอ่บแอ่บ เขียดจะนา / ร้องยามฟ้า ฮ้องฮ่วนฮ่วน /เขียดโม้ เขียดขาคำ / เหมือนหมอลำ พากันม่วน/เมฆดำ ลอยปั่นป่วน/ ฝนตกมา สู่อีสาน…”

ฟังเพลงนี้ อารมณ์คิดฮอดบ้านของหลายคน อาจพลุ่งพล่าน

Advertisement

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่ต้องถูกกักตัว หรือคนที่ไม่สามารถกลับบ้านได้ มา 2 สงกรานต์ น้ำตาอาจถึงไหล

ยิ่งตอนนี้เข้าสู่ช่วง “ฝนใหม่” ในโลกโซเชียลมีเดียเหล่ายูทูบเบอร์ที่กระจายอยู่ตามถิ่นอีสาน พากันเสนอเมนู แกงเขียด แกงอึ่ง ใส่ผักกะแยง กันพร้อมหน้า

ยิ่งตอกย้ำ ภาวะคิดฮอดบ้าน

แต่ ในภาวะปัจจุบัน คิดฮอดอย่างไร ก็กลับลำบากหรือแทบจะกลับไม่ได้ อันเนื่องมาจากการระบาดของโรคโควิด-19

ซึ่งไม่ใช่เพียง ความหวาดผวาที่จะติด หรือนำพาโรค ไปสู่พ่อใหญ่แม่ใหญ่ บักหล่าอีหล่า เท่านั้น

แต่นับวัน “เงิน” ในกระเป๋า ก็หดหายไปเรื่อยๆ จะกินแกงหน่อไม้ใส่ผักกะแยงตามรถเข็นสักถุง ก็ต้องคิดแล้วคิดอีก

ส่วนค่ารถกลับบ้านหรือจะมีเงินไปเผื่อแผ่ญาติพี่น้อง ไม่ต้องพูดถึง ยากอย่างยิ่ง

ภาวะ เช่นนี้ ไม่รู้จะจบลงเมื่อไหร่

แถมยังมีทีท่าจะหนักขึ้นไปเรื่อยๆ

ยิ่งฟัง การอภิปรายในสภา เรื่องงบประมาณปี 2565 ยิ่งหมดหวัง

เพราะไม่เพียงพรรคฝ่ายค้านเท่านั้น ที่วิพากษ์วิจารณ์การจัดสรรงบประมาณ ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาจากโรคระบาด รวมไปถึงการบริหารจัดการเพื่อฟื้นฟูประเทศหลังจากนั้น

แต่เราได้เห็น คนในพรรคร่วมรัฐบาลเอง ร่วมถล่มรัฐบาล-ผู้นำ-ระบบราชการรวมศูนย์ ไปด้วย

แม้จะถูกประชดประชันว่า เป็นเพียงการเล่นลิเก

หรือเล่นใหญ่เกินตัว แบบ อภิปรายเป็น “ราชสีห์” แต่ลงคะแนนเป็น “หนู”

เพราะที่สุดก็โหวตรับหลักการกันถ้วนหน้า

ทำให้การอภิปรายท้วงติง เป็นเพียงการต่อรองเพื่อผลประโยชน์ เพื่ออำนาจ ไม่มีอะไรในกอไผ่

ซึ่งส่วนหนึ่งก็คงเป็นเช่นนั้นจริงๆ และเราในฐานะชาวบ้านก็ต้องจดจำ พฤติกรรมเหล่านี้เอาไว้ดีๆ

เมื่อถึงยามเลือกตั้ง ก็อย่าลืม ความ “ขยะแขยง” เหล่านี้

แต่อีกส่วนหนึ่ง ที่มันน่า “ขยะแขยง” เพิ่มขึ้นไปอีก นั่นคือประเด็นที่เขาหยิบมาวิพากษ์วิจารณ์ และเปิดโปงกันเองนั้น

มัน เปลือยเปล่า “ปัญหา-วิกฤต” การบริหารจัดการ ของรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาล

ไม่ใช่เล่นใหญ่-เล่นละคร แต่มันเป็นเรื่องจริง

เราถึงได้เห็นและได้รับผลกระทบ จาก ภาวะล้มเหลวในการรับมือและแก้ไข “วิกฤตโรคระบาด” โดยถ้วนหน้ากันไง

ที่น่าห่วงใยและกังวล คือปัญหาเหล่านี้ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างมีประสิทธิภาพ

พวกเขาแค่ไปเกลี่ยผลประโยชน์และอำนาจให้ลงตัว จากนั้นก็กระเตงๆ กันไปจนกว่าประคบประหงม “ความเน่า” ต่อไปไม่ไหว

ตอนนั้นแหละ ต่างฝ่ายต่างก็จะกลายเป็น “สิ่งขยะแขยง” ของกันและกัน

แต่จะถึงตอนนั้น ชาวบ้านก็คงย่ำแย่

ที่จะฝัน “โรแมนติก” เป็น “อีสานแมนติก”

คือเห็นประเทศถูกปลดล็อก พ้นจากโรคระบาด มีเงินเต็มกระเป๋า

ได้ “เมือ” บ้าน กลับไปซดแกงอึ่งแกงเขียดใส่ผักกะแยงหอม-หอม โดยไว

เห็นทีจะยากเด้อ

สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image