สถานคิดเลขที่ 12 : ม้าแยกร่างทางการเมือง โดย ปราปต์ บุนปาน

หลายคนอาจวิเคราะห์ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ รัฐบาลพลังประชารัฐ กำลังเผชิญหน้ากับ “ฉันทามติ” ของคนส่วนใหญ่ในสังคม

ที่มองเห็นความล้มเหลวชัดเจนในการบริหารจัดการสถานการณ์โควิดของผู้นำประเทศและทีมงาน

จนนำไปสู่อารมณ์ไม่พอใจถึงขีดสุด และการต้องประกาศจุดยืน “ไม่เอารัฐบาล” ออกมา

บทความชิ้นนี้อยากขออนุญาตขยับขยายปรับเปลี่ยนมุมมองและทดลองนำเสนอในอีกแง่มุมว่า บางทีสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ กำลังเผชิญหน้าอยู่อาจเป็นกระบวนการ “ม้าแยกร่างทางการเมือง” (ไม่แน่ใจว่าจะเป็นม้าฝูงเดียวกันกับที่ปรากฏตรงฉากหลังของนายกฯ ในระหว่างการเวิร์กฟรอมโฮมเมื่อต้นสัปดาห์ก่อนหรือไม่?)

Advertisement

คำถามแรก คือ ทำไมจึงเป็น “ม้าแยกร่างทางการเมือง”?

นั่นก็เพราะแม้เราจะสามารถสรุปรวบยอดได้ว่า เสียงต่างๆ ที่ออกมาต่อต้านก่นด่าตำหนินายกรัฐมนตรีและรัฐบาลมากขึ้นเรื่อยๆ นั้นมีลักษณะเป็น “การประสานเสียง” 

ทว่าเราก็สามารถตีความปรากฏการณ์ดังกล่าวว่าเป็น “การแยกกันตี” จากต่างทิศทาง ต่างกลุ่มความคิด ได้เช่นกัน

Advertisement

เนื่องจากโดยพื้นฐาน “ฝ่ายประชาธิปไตย” ที่ต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์ และเครือข่ายอำนาจรัฐในปัจจุบัน นั้นก็อาจแบ่งซอยออกได้เป็น 2-3 กลุ่มย่อยอยู่แล้ว คือ พรรคเพื่อไทย-ทักษิณ, พรรคก้าวไกล-คณะก้าวหน้า (อดีตพรรคอนาคตใหม่) รวมถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ออกมา “ชูสามนิ้ว” 

ในอีกด้านหนึ่ง ก็มีปรากฏการณ์ที่อดีตแนวร่วม กปปส. คนเป่านกหวีด สลิ่ม หรือคนเสื้อเหลือง ซึ่งอาจเรียกรวมๆ ได้ว่าเป็นฝ่ายอนุรักษนิยมทางการเมือง เริ่มออกมาส่งเสียง “ไล่ประยุทธ์” เหมือนกัน

เหล่านี้ คือ กลุ่มพลังหลายสาย ที่มี “จุดหมายเบื้องต้น” คล้ายคลึงกัน แต่ต่าง “ที่มารากฐาน” และอาจไม่ได้มี “ปลายทาง” ร่วมกันเสียทีเดียว

ขณะเดียวกัน ก็ต้องยอมรับว่ายังมีกลุ่มพลังทางการเมืองบางส่วนที่พยายามสงวนท่าที หรือยืนกรานที่จะปกปักพิทักษ์ พล.อ.ประยุทธ์ ต่อไป

คำถามต่อมา คือ ใครหรืออะไรกันแน่ที่กำลังถูกแยกร่างในทางการเมือง?

คือบุคคลคนหนึ่ง ที่เป็นทหารเก่า-นายกรัฐมนตรีชื่อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือเป็นระบบ-เครือข่ายอำนาจรัฐขนาดมหึมา ซึ่งมีบุคคลชื่อประยุทธ์ดำรงสถานะเป็น
“ภาพตัวแทน” ของระบบ-เครือข่ายดังกล่าว?

หรือสุดท้าย ทั้งตัวบุคคลและระบบต่างล้วนต้องเผชิญชะตากรรมไม่ต่างกัน?

เพราะด้านหนึ่ง ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะ “ผู้ถูกเลือก” (ด้วยกระบวนการทางการเมืองอันซับซ้อนเกินกว่าการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยปกติ) ให้มาเป็นผู้นำรัฐบาล คือ บุคคลที่นำพาตนเองและเครือข่ายสนับสนุนเดินทางมาถึงจุดลำบากยากเย็นเช่นนี้

แต่อีกด้านหนึ่ง ก็ยากจะปฏิเสธได้ว่า “กระบวนการเลือก” พล.อ.ประยุทธ์ ให้ดำรงตำแหน่งนายกฯ ผ่าน “รัฐธรรมนูญ/โครงสร้างการเมือง” ที่ดีไซน์มาเพื่อเป้าประสงค์เฉพาะหน้าบางอย่าง คือ ส่วนสำคัญของปัญหาปัจจุบัน และจำเป็นจะต้องถูกชำระล้างในอนาคตอันใกล้

คำถามสุดท้าย กระบวนการ “ม้าแยกร่างทางการเมือง” ที่กำลังเกิดขึ้น นั้นจะนำไปสู่ภาวะกระจัดกระจายแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ในฉับพลันทันทีหรือไม่?

คำตอบคือคงไม่ใช่ แต่ในทางตรงกันข้าม ม้าแต่ละตัว พลังทางการเมืองแต่ละกลุ่ม ที่ออกวิ่งไปคนละทิศทาง กลับจะทำให้ “เรือนร่างทางการเมือง” ซึ่งถูกผูกโยงไว้ตรงกลางตกอยู่ในสภาพโดนยื้อยุดไปมาไม่รู้จบด้วยความทุกข์ทรมาน

ภาวะทรมานทรกรรมอย่างนี้อาจไม่ได้เกิดขึ้นกับตัวละครทางการเมืองชื่อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือระบบ-เครือข่ายอำนาจที่แวดล้อมหนุนส่งเขาเพียงเท่านั้น

แต่นี่ยังเป็นภาวะที่จะลุกลามรุมเร้า “ประชาชนคนไทย” ทั้งหมด หรือ “ประเทศไทย” ทั้งประเทศด้วย

ปราปต์ บุนปาน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image