ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
---|
เหตุการณ์คาร์ม็อบเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม มีหลายเรื่องที่น่าสนใจ
หนึ่ง คือ เรื่องปริมาณของผู้เข้าร่วมที่มีมากขึ้นกว่าครั้งก่อนๆ
มากทั้งปริมาณผู้เข้าร่วม และยังมีพื้นที่ต่างจังหวัดที่มีผู้ประกาศคาร์ม็อบมากขึ้นด้วย
สอง คือ วิธีการคาร์ม็อบที่เปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ มีการปราศรัยบ้างเป็นจุดเล็กๆ แต่เนื้อหาผ่านการถ่ายทอดทางโซเชียลครบถ้วน
การเคลื่อนไหวไม่ยืดเยื้อ ประกาศยุติการชุมนุมทันทีที่เห็นว่าสมควร
สาม คือ สถานที่ที่เคลื่อนไหวชัดแจ้ง คือ มุ่งไปที่บ้านพัก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
เป้าหมายคือต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออก
สี่ คือ แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มมีประสบการณ์มากขึ้น ทั้งรุ่นใหญ่อย่าง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และคนรุ่นใหม่อย่าง นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และกลุ่มราษฎร
ปรากฏการณ์วันที่ 1 สิงหาคม หลังจากประกาศยุติการชุมนุม ได้มีกลุ่มคนบางกลุ่มที่เข้าร่วมชุมนุมไม่ยอมเลิก
หลังจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ปั่นป่วนขึ้น มีการขว้างระเบิดปิงปอง มีการขว้างระเบิดเพลิง
ฝ่ายตำรวจยิงแก๊สน้ำตา และยิงกระสุนยาง เพื่อสลาย
เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นในช่วงเย็นเรื่อยไปถึงช่วงค่ำ
เหตุการณ์ในช่วงนี้นี่เองที่ต้องคลี่คลายข้อสงสัย
ประการแรก กลุ่มที่ยังเหลืออยู่เป็นใคร เคลื่อนไหวเป็นขบวนการโดยมีหัวหน้า หรือเคลื่อนไหวอิสระ และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวแล้วหรือไม่
ประการที่สอง การดำเนินการของเจ้าหน้าที่นั้นเกินกว่าเหตุหรือไม่
การฉีดน้ำ ใช้แก๊สน้ำตา และการใช้กระสุนยาง นั่นคือลำดับขั้นตอนตามหลักสากล
แต่ห้วงเวลาในการตัดสินใจยกระดับการควบคุมฝูงชนนั้นเป็นไปตามหลักสากลหรือเปล่า
หลายภาพที่ปรากฏในวันรุ่งขึ้น น่าจะไขข้อข้องใจได้ว่า ฝ่ายผู้ชุมนุม และฝ่ายเจ้าหน้าที่ มีใครกระทำเกินกว่าเหตุไปบ้าง
ใครที่กระทำเกินเลยต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ทั้งฝ่ายผู้ชุมนุมและฝ่ายเจ้าหน้าที่ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
แต่ทุกครั้งที่ได้ยินคำแถลง
มีแต่ข้อกล่าวหาฝ่ายผู้ชุมนุม ยังไม่ได้ยิน ไม่ได้เห็น การดำเนินคดีกับฝ่ายเจ้าหน้าที่
ทุกครั้งที่มีการเปิดเผยข้อมูล รู้แต่ชื่อของกลุ่มผู้ชุมนุม แต่ไม่เคยได้ยินชื่อของเจ้าหน้าที่ที่น่าสงสัยว่ากระทำเกินกว่าเหตุ
การนัดม็อบและการสกัดม็อบเกิดขึ้นถี่ขึ้นในช่วงหลัง
การปะทะระหว่างม็อบกับเจ้าหน้าที่ก็ถี่ขึ้น
ถี่จนพอมองเห็นแล้วว่า กลุ่มไหนต้องการความสงบ กลุ่มไหนต้องการความรุนแรง
คาร์ม็อบเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ไม่เหมือนกับคาร์ม็อบก่อนหน้านี้
เพราะคาร์ม็อบครั้งนี้แสดงถึงการเติบโต
เติบโตจากกลุ่มคน กลายเป็นฝูงชน และเริ่มขยับขึ้นเป็นชุมชน
กลายเป็นชุมชนของคนที่ไม่พอใจการบริหารราชการแผ่นดินของ พล.อ.ประยุทธ์
เป็นชุมชนที่เกิดขึ้นทั่่วประเทศและกำลังขยายตัวออกไปเรื่อยๆ
นฤตย์ เสกธีระ
[email protected]