สถานีคิดเลขที่ 12 : รักดีกว่ารบ โดย สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

สถานีคิดเลขที่ 12 : รักดีกว่ารบ แปลกดีที่เกิดข้อถกเถียงว่า การแก้ไขปัญหา

แปลกดีที่เกิดข้อถกเถียงว่า การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองด้วยแนวทางสันติวิธีนั้น ถูกต้องแล้วหรือไม่ โดยมีการย้อนไปมองยุค พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกฯ โดย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นผู้นำกองทัพยุคใช้มันสมองมากกว่ากำลัง นำเอาคำสั่งที่ 66/2523 ออกมาใช้เพื่อยุติสงครามสู้รบกับคอมมิวนิสต์ จนไฟป่าสงบราบคาบ

จู่ๆ ก็มีคนสงสัยว่า นั่นคือ การทำให้เชื้อขัดแย้งย้ายเข้ามาสู่ในเมือง และลุกลามมาจนถึงวันนี้

อันที่จริงแล้วเป็นข้อสังเกตที่ไม่ควรต้องถกเถียงอะไรกันมาก เพราะหลักการเมืองนำการทหาร ได้พิสูจน์แล้วว่า ยุติสงครามที่เกิดจากความขัดแย้งทางความอุดมการณ์ได้ถูกต้องที่สุด

ทั่วโลกเขาก็พิสูจน์แล้วว่า ถ้าไม่ใช่สงครามสู้รบระหว่างประเทศ แต่ถ้าเป็นความขัดแย้งทางอุดมการณ์ของคนในชาติ ต้องพูดคุยเจรจาหาข้อยุติทางเดียวเท่านั้น

Advertisement

ไม่มีอะไรต้องมาสงสัย

ส่วนปัญหาความขัดแย้งในบ้านเมืองที่ยังรุนแรงอยู่ในทุกวันนี้ ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรเลยกับคอมมิวนิสต์ในอดีต

ที่ผู้มีอำนาจยุคปัจจุบันทะเลาะอยู่คือ เยาวชนรุ่นใหม่ ที่เขาเติบโตจากการถกเถียง และค้นหาข้อมูลผ่านทวิตเตอร์ โซเชียล ไม่ได้เกี่ยวกับลัทธิมาร์กซ์ เลนิน อะไรทั้งสิ้น

Advertisement

ที่สำคัญอดีตคอมมิวนิสต์ในยุคนั้น มาวันนี้เปลี่ยนขั้วเปลี่ยนข้างกันมากมาย จากซ้ายกลายเป็นขวาจัดกันเยอะแยะ

บังเอิญมาถึงช่วงตรงกับวันเวลาทางประวัติศาสตร์การเมืองยุคสงครามคอมมิวนิสต์พอดี วันที่ 7 สิงหาคม เมื่อปี 2508 เรียกว่า วันเสียงปืนแตก วันที่คอมมิวนิสต์ในป่าเริ่มใช้อาวุธปืนต่อสู้กับทหารรัฐบาล

จากนั้นสงครามยิ่งลุกลาม เพราะรัฐบาลโหมการปราบปราม ทุ่มกำลังทหารออกสู้รบ เข้าตำรายิ่งปราบก็ยิ่งโต เพราะเป็นสงครามอุดมการณ์ ยิ่งปราบปรามชาวบ้านในพื้นที่สงครามยิ่งเดือดร้อนยิ่งแห่กันเข้าร่วมกับฝ่ายป่า จนสมรภูมิขยายไปทั่วทุกภาค เกือบทุกจังหวัด

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การฆ่านักศึกษาประชาชน เมื่อ 6 ตุลาคม 2519 เป็นการผลักปัญญาชนเข้าไปร่วมกับคอมมิวนิสต์ในป่าครั้งใหญ่

จากเดิมที่ฐานมวลชนของคอมมิวนิสต์เป็นชาวบ้าน ชาวนา ชาวไร่

แต่การฆ่าหมู่กลางเมือง ทำให้คอมมิวนิสต์ได้ปัญญาชนเข้าไปร่วมหลายพันคน แนวร่วมในเมืองอีกมหาศาล ยกฐานะของพรรคคอมมิวนิสต์ไทยไปอีกระดับ เพราะทำให้สื่อมวลชนทั่วโลก เดินทางมายังฐานที่มั่นคอมมิวนิสต์ เพื่อทำข่าวปัญญาชนแห่เข้าป่าจับปืน

หลังจากนั้น คอมมิวนิสต์ยิ่งใหญ่โต จนกระทั่งเกิดกลุ่มนายทหารที่ใช้สมองมากกว่ากำลัง ผลักดันแนวทางการเมืองนำการทหาร จนกลายเป็นคำสั่งที่ 66/2523 ทำให้ยุติสงครามนั้นได้ทันที

ประวัติศาสตร์ความขัดแย้ง ที่นำไปสู่การจับปืนสู้รบกับรัฐบาล เป็นเรื่องต้องเรียนรู้ให้เข้าใจ

ที่สำคัญคอมมิวนิสต์ประเทศไทยก็คือ คนไทยที่มีแนวคิดอุดมการณ์อย่างหนึ่ง ไม่ใช่กองกำลังจากต่างชาติที่ไหน

ประวัติศาสตร์ยุคสงครามคอมมิวนิสต์ ต้องทบทวนเพื่อไม่ให้เกิดซ้ำอีก เพราะสงครามคือ ความรุนแรงและการสูญเสียของทุกฝ่าย

เหมือนประวัติศาสตร์เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ที่พวกไม่เคยเรียนรู้ เชียร์ให้ลงมือกันอีก เพื่อกวาดล้างพวกคนรุ่นใหม่ให้สิ้นซาก

ไม่เคยรู้ว่า เพราะปราบ 6 ตุลาฯนั้นแหละ ทำให้นักศึกษาปัญญาชนหลายพันคนแห่กันเข้าป่าจับปืน ทำให้สงครามยิ่งลุกลาม

จนกองกำลังคอมมิวนิสต์มาจ่ออยู่แถวบ้านไร่ อุทัยธานี มาอยู่แถวปากท่อ ราชบุรี ใกล้จะถึง กทม.อยู่แล้ว

ถ้าไม่ได้ 66/23 จะเกิดอะไร!?!

สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

ย้อนอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image