…กล่าวอีกอย่างคือ บางประเทศที่จัดการไวรัสได้มีรัฐบาลขนาดใหญ่ ส่วนบางประเทศก็มีรัฐบาลเล็ก แล้วสิ่งที่เหมือนกันคืออะไร มันคือรัฐที่มีความสามารถ ทำหน้าที่ได้ดี ไว้ใจได้ รวมๆ แล้วก็คือคุณภาพของรัฐบาล…
ในขณะที่อำนาจทางทหารของอเมริกาอาจจะยังคงเหนือกว่าชาติอื่นๆ ทั้งหมด แต่ชีวิตของชาวอเมริกันทั่วไปจะไถลลงมารั้งท้ายจนเทียบกับการพัฒนาในต่างประเทศไม่ได้อีกต่อไป อเมริกาอาจกลายเป็นประเทศจิตใจคับแคบ มีความเป็นสากลน้อยลง สูญเสียอิทธิพลและนวัตกรรม พลางปลอบใจตัวเองด้วยฝันหวานว่ามีความพิเศษเต็มที่เหนือใคร
หลายสิบปีแล้วที่โลกจำเป็นต้องเรียนรู้จากอเมริกา แต่ถึงเวลาที่อเมริกาจำเป็นต้องเรียนรู้จากโลก และเรื่องที่จำเป็นต้องเรียนรู้มากสุดคือรัฐบาลที่ดีไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดใหญ่หรือเล็ก
นี่ คือเนื้อหาบางส่วนจากบทหนึ่งของหนังสือชื่อ Ten Lessons for a Post-Pandemic World : บทเรียนเพื่อโลกหลังการระบาด เขียนโดย Fareed Zakaria แปลโดย วิรัชภาค และจัดพิมพ์โดย สำนักพิมพ์มติชน
บทดังกล่าวของหนังสือเล่มนี้มีชื่อว่า บทเรียนที่ 2 สิ่งสำคัญคือคุณภาพของรัฐบาลไม่ใช่ขนาด
แม้เนื้อหาของหนังสือข้างต้นจะมุ่งวิพากษ์ศักยภาพในการจัดการปัญหาโควิด-19 แพร่ระบาดของรัฐบาลสหรัฐ ยุคทรัมป์ เป็นหลัก
แต่หลายสิ่งที่ Zakaria วิเคราะห์-นำเสนอไว้ก็มี ความเป็นสากล มากพอที่จะนำมาประยุกต์ใช้ เพื่อพิจารณาถึงสังคมการเมืองอื่นๆ
รวมทั้ง สังคมการเมืองไทย
คำถามที่พลเมืองไทยจำนวนมากพากันตั้งคำถามในขณะนี้ คงหนีไม่พ้นประเด็นที่ว่า แท้จริงแล้ว รัฐไทยมีความสามารถแค่ไหน? และคุณภาพของรัฐบาลชุดปัจจุบันนั้นเป็นอย่างไร?
ด้านหนึ่ง ไม่มีใครปฏิเสธว่าประเทศไทยมี รัฐราชการ อันใหญ่โต และไม่สามารถตีตราได้ว่านี่เป็น รัฐราชการที่อุ้ยอ้ายเทอะทะ หากมองการไปยังรูปแบบการทำงานบางอย่าง เช่น วิธีการสลายการชุมนุม รวมถึงการติดตั้งตู้คอนเทนเนอร์และนำโบกี้รถไฟมาขัดขวางการสัญจรเดินขบวนของผู้ชุมนุมทางการเมือง
สอดคล้องกับการที่รัฐไทยยังคงเตรียมเงินก้อนใหญ่ไว้สำหรับการจัดซื้ออาวุธและการจัดทำงบประมาณกองทัพ-ความมั่นคง
แต่อีกด้าน ก็ไม่มีใครปฏิเสธเช่นกันว่า อำนาจรัฐอันไพศาล ดังกล่าว นั้นถูกใช้งาน (และนำไปสู่การจัดสรรทรัพยากรต่างๆ) อย่างผิดที่ผิดทางผิดฝาผิดตัวไปหมด
เราจึงได้เป็นประจักษ์พยานของทั้งเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่รัฐสามารถกำราบม็อบด้วยกระสุนยาง-แก๊สน้ำตา และสภาพการณ์ที่รัฐบาลบริหารจัดการปัญหาโควิดได้อย่างย่ำแย่ กระทั่งจำนวนผู้เสียชีวิตหลักร้อยคนและผู้ติดเชื้อเพิ่มราวสองหมื่นคนต่อวัน กลายเป็น วิถีปกติใหม่ ไปแล้ว ณ ปัจจุบัน
เช่นเดียวกับสถานการณ์การมีเตียงรองรับคนป่วยไม่เพียงพอในโรงพยาบาล ขณะที่การให้ผู้ติดเชื้อแยกตัวดูแลตนเองอยู่ในบ้านก็ยังดำเนินไปอย่างไม่มีประสิทธิภาพมากนัก ไม่รวมผลลัพธ์ที่ยังไม่แน่นอนของนโยบายจัดหาวัคซีนอันมีจุดบกพร่อง
ราวกับว่าเรามีรัฐ/รัฐบาลที่กักตัวอยู่ภายในจักรวาลจิ๋วๆ ซึ่งมีตัวเองเป็นศูนย์กลางอันยิ่งใหญ่ โดยไม่เคยซึมซับเรียนรู้วิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสมและประสบการณ์เลวร้ายที่เพิ่งเกิดขึ้นกับประเทศอื่นๆ บ้างเลย
รัฐราชการที่ใหญ่คับประเทศและรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มมือแบบไทยๆ จึงกลายเป็นสององค์ประกอบสำคัญ ซึ่งก่อให้เกิดสภาวะ รัฐล้มเหลว อันไม่ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากผู้คนจำนวนมาก
นี่เป็น รัฐล้มเหลว ที่คุ้มครองปกปักรักษาชีวิตของพลเมืองเอาไว้ไม่ได้ แถมในบางกรณี รัฐยังตั้งตัวเป็นศัตรูกับประชาชนเสียเอง
ปัญหาของ รัฐไทย-รัฐบาลประยุทธ์ ก็ไม่ได้อยู่ที่ขนาด
แต่อยู่ที่คุณภาพและความสามารถต่างหาก
ปราปต์ บุนปาน