| ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
|---|
สถานีคิดเลขที่ 12 : ยาวิเศษแก้ขัดแย้ง โดย จำลอง ดอกปิก
‘บิ๊กตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยืนยัน ไม่ปรับ ครม. แต่นักการเมือง-ผู้คนที่ติดตามข่าวสาร การบ้านการเมืองใกล้ชิด เชื่อว่า ในที่สุด นายกฯไม่สามารถหลีกเลี่ยงปรับ ครม.ได้หรอก
ทุกครั้งก็ยืนยันหนักแน่น ท่าทีลีลา ขึงขังเช่นนี้
แต่ก็ปรับทุกที
เพียงแต่ครั้งนี้ไม่ง่าย ต่างกับเมื่อครั้งปรับเพื่อแต่งตั้งรัฐมนตรีทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ของกลุ่มรัฐมนตรี 4 กุมาร นำโดย สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ยอมล่าถอย ลาออก
ลี้หนีภัยการเมืองภายใน จากไปเอง
ไม่ง่ายเหมือนเมื่อต้นปี 3 รัฐมนตรี ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ถาวร เสนเนียม พ้นเก้าอี้ จากผลพวงคดีความ เป็นแกนนำ กปปส.ร่วมชุมนุมชัตดาวน์กรุงเทพมหานคร
โจทย์มันไม่ซับซ้อน
แต่ครั้งนี้ยากกว่าหลายเท่า เนื่องจากมีการตั้งป้อมสู้ชัดเจน
จะปรับโดยไม่ฟังเสียง ส.ส. ไม่ให้ความสำคัญกับพรรคการเมืองไม่ได้
แม้เป็นอำนาจเต็มของนายกรัฐมนตรีก็ตาม
2 เก้าอี้ที่ว่างอยู่ มันเป็นโควต้าพรรคพลังประชารัฐ ตำแหน่งเดิมในความครอบครองของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า นฤมล ภิญโญสินวัฒน์
คนใกล้ชิด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
สมาชิกวีไอพี บ้านป่ารอยต่อ ที่มีอำนาจต่อรองทางการเมืองสูงมาก
เป็นเสาค้ำ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในสภา
จึงเมื่อเก้าอี้ว่างลง และหากเปิดฉาก ปรับ ครม. การทวงคืนย่อมต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
การต่อรองเกิดขึ้นตามมา อย่างไม่ต้องสงสัย
ทางเดียวที่ปิดกั้นไม่ให้เกิดการต่อรอง เมื่อไม่พร้อมแตกหัก คือซื้อยื้อเวลาปรับ ครม.ออกไปพักยกความขัดแย้ง เอาไว้ชั่วคราว
ที่เป็นคำถามก็คือ ‘บิ๊กตู่’ จะบ่มซุกปัญหาไว้ได้นานแค่ไหนกัน
จะปล่อยให้บรรยากาศอึมครึมอยู่อย่างนี้ไปได้อีกกี่วัน กี่เดือน ในท่ามกลางการเคลื่อนไหวต่อรองอย่างลึกๆ เพื่อการนี้ ทั้งในทางเปิดเผย และไม่เปิดเผย
อย่างมากสุดก็ อาจยื้อได้แค่ช่วงปิดสมัยประชุมสภา
หากวันใดก็ตามสภาเปิด
เกมกดดัน บีบปรับ ครม.ก็จะปะทุขึ้นอีกครั้ง และหากต้องปรับช่วงนั้น อำนาจต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี จากการมี ส.ส.ในมือมากกว่า ก็ย่อม ทำให้ถือไพ่เหนือกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งต้องพึ่งพาเสียง ส.ส.สนับสนุนงานในฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ว่าเรื่องผลักดันกฎหมาย ออกมาเป็นเครื่องมือทำงานของฝ่ายบริหาร และญัตติสำคัญต่างๆ
ฉะนั้นนายกฯ ต้องเลือกจังหวะ เวลาการปรับ ครม.ให้ดี เพื่อรักษาดุลอำนาจต่อรอง
อาจไม่ใช่วันนี้ หรือสัปดาห์หน้า แต่จะปล่อยให้เนิ่นช้าก็ไม่ได้
ไม่ปรับ ไม่ยอมรับความจริงว่า มีปัญหาความขัดแย้งดำรงอยู่และต้องแก้ไขตามความเป็นจริงก็ไม่ได้ มันไม่เป็นผลดีต่อการบริหาร
‘บิ๊กตู่’ ยืนยัน ไม่ปรับ ครม.
เพราะรู้ว่า กดปุ่มส่งสัญญาณเมื่อใด ฝุ่นตลบทันที
ปรับก็มีปัญหา
แต่หากไม่ยอมปรับช่วงปิดสมัยประชุม แนวโน้มจะเป็นปัญหาหนักยิ่งกว่า อาจทำให้อุณหภูมิ ความไม่พอใจในหมู่ ส.ส.มุ้งใหญ่สุดพุ่งสูงขึ้น
คุมมิให้กระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาลยากยิ่งขึ้น
ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องชั่งน้ำหนักให้ดี
จะอยู่อย่างนี้ รอความขัดแย้งปะทุใหญ่ หรือว่าตัดสินใจปรับ ครม.
ยอมรับ อยู่กับความจริง
ปรับ ครม.ต้องมีการต่อรอง
ไม่มีใครได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เสียร้อยเปอร์เซ็นต์ หากแต่เป็นการประนีประนอม
รอมชอม ผลประโยชน์
