ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
---|
สถานีคิดเลขที่ 12 : โอกาสปฏิรูปการเมือง โดย นฤตย์ เสกธีระ
ใครที่ใฝ่ฝันอยากเห็นการเมืองปฏิรูป ต้องบอกว่าขณะนี้ถือเป็นโอกาส เพราะการเมืองกำลังพิจารณาทบทวนตัวเองก่อนการเลือกตั้ง
แม้หลายคำพูดหลายการกระทำอาจจะมี “อื่นๆ” แอบแฝง แต่ก็พอสัมผัสข้อเสนอที่จะนำไปสู่การปฏิรูป
เริ่มจากพรรคพลังประชารัฐที่เมื่อ 3 ป.เกิดรอยร้าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ปรับตัว
เริ่มพบปะ ส.ส. เริ่มเข้าหาประชาชน ไม่ใช้วิธีนั่งบัญชาการอยู่ในที่ตั้งแบบแม่ทัพใหญ่เหมือนก่อน
ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ระยะหลังพูดอิงประชาชนอยู่เนืองๆ
ทั้งการวิพากษ์พรรคตัวเองว่า ไม่สามารถทำตามนโยบายหาเสียงได้
ทั้งการวิพากษ์วิจารณ์พาดพิงไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ ที่ต้องเปิดรับฟังคำเห็นต่างให้มากขึ้น
ขณะที่พรรคเพื่อไทยที่กำลังประชุมพรรคในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ ก็มีเวลาทบทวนตัวเอง
การบริหารงานของพรรคที่ยังอิงแอบ ทักษิณ ชินวัตร แม้จะมีจุดแข็งแต่ก็มีจุดอ่อน
เรื่องจุดแข็งและจุดอ่อนนี้ไม่จำเป็นต้องกล่าวซ้ำ เพราะตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมาทุกคนได้เห็น
วันนี้หลายคนนิยมไอเดียของนายทักษิณ แต่ขณะเดียวกันเมื่อมีอะไรที่พลาดพลั้งเหล่าอมิตรต่างพร้อมใจรุมยำ
ล่าสุด เมื่อคลิปวันที่พรรคเพื่อไทยจัดงานเลี้ยง มีลิงก์ต่อไปยังทักษิณ
มีการพูดถึงผู้นำที่จะมาดูแลพรรค มีการสอบถามความคิดเห็น
และขณะนี้กำลังกลายเป็นเรื่อง!
ทางด้านพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อเหลือบมองดูผลโพลล่าสุด ต้องยอมรับว่ายังมีอะไรต้องปรับปรุง
ก่อนหน้านี้ นายเทพไท เสนพงศ์ ชี้ให้เห็นยอดเงินบริจาคให้พรรคผ่านภาษีเงินได้
พรรคประชาธิปัตย์น้อยกว่าพรรคก้าวไกล
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ผลสำรวจความคิดเห็นกลุ่มตัวอย่างในภาคใต้ มีประเด็นชวนคิด
เมื่อถามถึงการลงคะแนนเสียงเลือกพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ปรากฏว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 48.14 ระบุว่า ยังไม่แน่ใจ
ร้อยละ 30.04 ระบุว่า จะเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 20.38 ระบุว่า จะไม่เลือกพรรคประชาธิปัตย์
นี่เป็นการบ้านของพรรคประชาธิปัตย์ที่ต้องกลับไปทบทวน
สำหรับภาพใหญ่ของการเมือง เมื่อมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทำให้ต้องแก้ไขกฎหมายลูก
ฉบับแรกที่ต้องแก้ไข คือ พ.ร.ป.การเลือกตั้ง ในประเด็นบัตร 2 ใบ
โฟกัสที่วิธีการคำนวณ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ
อีกฉบับหนึ่งมีแรงผลักดันให้แก้ไขอย่างหนัก คือ พ.ร.ป.พรรคการเมือง
ประเด็นที่จะแก้ไขคือ การใช้ระบบไพรมารีโหวตในการคัดเลือกว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของแต่ละพรรค
ความเคลื่อนไหวเช่นนี้ คือ การเริ่มต้น
หากคิดจะปฏิรูปการเมืองก็ต้องปฏิรูปในช่วงที่ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญ มีการเลือกตั้ง มีการรับฟังความคิดเห็น
7 ปีที่ผ่านมา ยืนยันว่า การปฏิรูปภายใต้การรัฐประหารนั้นไม่สำเร็จ
แต่การปฏิรูปการเมืองในขณะนี้ก็ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จ
เพียงแต่เป็นช่วงเวลาที่ได้ปรับปรุง ได้รับฟังความคิดเห็น
มีการตรวจทานว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้
ถ้าคิดจะปฏิรูปการเมือง ช่วงเวลานับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป น่าจะมีโอกาสมากกว่าเดิม