สถานีคิดเลขที่ 12 : ล้างไพ่ก็ไม่จบ โดย จำลอง ดอกปิก

พรรคพลังประชารัฐ ขยับปรับโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคใหม่

เพื่อสะสางปัญหาความขัดแย้งภายใน ที่คาราคาซัง

เป้าหมายคือ เปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรค ธรรมนัส พรหมเผ่า

จัดระเบียบพรรคให้เป็นเอกภาพ

เตรียมความพร้อม รับมือการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญ วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ลดความเสี่ยง การผลักดันกฎหมายการเงิน ออกมาบังคับใช้ เป็นเครื่องมือในการบริหารประเทศ

ที่หากไม่ผ่านความเห็นชอบ รัฐบาลต้องแสดงความรับผิดชอบ

ไม่ยุบสภา ก็ต้องลาออก

ปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ เกิดขึ้น ดำรงอยู่ และไม่ได้รับการแก้ไข นับแต่ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นต้นมา

การปลดแกนนำก่อการ คิดโค่นล้ม โหวตเทนายกฯกลางสภา ธรรมนัส พรหมเผ่า และ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ พ้นเก้าอี้รัฐมนตรีช่วย นำมาซึ่งความบาดหมางระหว่าง พี่น้อง 3 ป.

เนื่องจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

แต่ไม่ได้รับแจ้ง บอกกล่าวล่วงหน้า ถึงการปลดลูกพรรค ผู้ใกล้ชิดทั้งสอง

แม้ในเวลาต่อมา ดูเหมือนสถานการณ์ความขัดแย้งคลี่คลาย

แต่ก็เป็นเพียงภาพหลอกเท่านั้น

แท้ที่จริงป้ญหายังอยู่ ไม่ลดน้อยถอยลงแต่อย่างใด เนื่องจากยังไม่ได้รับการแก้ไข

เพียงแต่การไม่แก้ไขนั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อรัฐบาล

เพราะอยู่ในห้วง สภาปิดเทอม

รัฐบาลไม่ต้องพึ่งพาเสียงในสภาผู้แทนราษฎร

ทำให้ต่างฝ่ายต่างคุมเชิงกันอยู่เท่านั้น

แต่การทำโพล สำรวจความนิยม ส.ส. ได้ก่อให้เกิดความหวาดระแวงขึ้น ในสายตาที่มองจากทำเนียบรัฐบาล นี่เท่ากับการเปิดเกมรุกครั้งใหม่ ขยายเครือข่าย จำนวน ส.ส.ของกลุ่มเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ

เพื่อเสริมสร้าง เพิ่มอำนาจต่อรอง

เป้าหมายสำคัญ อยู่ที่เก้าอี้รัฐมนตรี

ในขณะที่เวทีโชว์อำนาจต่อรองที่ดีที่สุุด อย่างเป็นทางการ จะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้

จึงถึงเวลาต้องตัดสินใจแก้ปัญหา

ปล่อยไว้ อาจบ่อนเซาะ ทำลายรัฐบาล ที่จำเป็นต้องมีเสาค้ำ เสียงในสภาปกป้อง อุ้มชู รับมือกระทู้ถาม ญัตติ ตรวจสอบ ที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ ไปจนกระทั่งถึงการผลักดันร่าง พ.ร.บ.ต่างๆ และกฎหมายการเงิน

ที่สำคัญต่อการอยู่ การไปของรัฐบาล

ฝ่ายทำเนียบ เปิดเกมรุก ด้วยการยึดพรรคคืน

แผนการไม่ซับซ้อน สะกิดกรรมการบริหารพรรคลาออก ล้างไพ่ เพื่อเลือกตั้งใหม่

ล้างบาง-เปลี่ยนแม่บ้านพรรค

ลดบทบาท มิให้ใช้ตำแหน่งเลขาธิการพรรคซ่องสุมไพร่พลต่อรองอีกต่อไป

แผนการเดียวกับที่ประสบความสำเร็จ ใช้ยึดพรรคคืน จากกลุ่ม 4 กุมาร

แต่ธรรมนัส มิใช่ตะเกียงไร้น้ำมัน

เกมหักดิบอย่างนี้ ทำได้ง่าย ไม่ยากหรอก แต่จะมากพอเป็นหลักประกัน ว่าปัญหาจบแล้ว อย่างสะเด็ดน้ำ
ในสภาไม่มีปัญหาเรื่องเสียงอีกต่อไป

อาจไม่ใช่

เลขาธิการพรรคยังคงมีสมาชิกภาพ ส.ส.อยู่ ยังคงมีสมาชิกร่วมมุ้งอยู่จำนวนที่แน่นอนหนึ่ง

อีกทั้งยังมีมิตร สหาย-แนวร่วม ทั้งในพรรคและนอกพรรค

ยังคงมีศักยภาพ ที่จะก่อหวอดในสภา ป่วนรัฐบาล ไม่จบสิ้น หากไม่เห็นพ้องต่อแนวทางแก้ปัญหา ผ่าความขัดแย้งร่วมกัน แบบวิน-วิน

แต่ถูกหักโหด ซ้ำเป็นครั้งที่สอง

ทางออกที่น่าเชื่อว่า จะทำให้ยุติปัญหาได้ คือพี่น้อง 3 ป.ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง เคลียร์ปัญหาให้จบโดยเฉพาะกับพี่ใหญ่ ที่ว่ากันว่า เป็นคนเดียวเอา ‘ธรรมนัส’ อยู่

ไม่เช่นนั้นไม่จบ

ยิ่งทุบ ยิ่งหัก ก็ยิ่งบาน สั่งสมความเคียดแค้น

วิธีการทำลายล้างแบบทหาร ใช้กับงานการเมืองไม่ได้หรอก

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่