| ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
|---|
สถานีคิดเลขที่ 12 : บิ๊กแป๊ะและสนามใหญ่ โดย สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน
สนามเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะเลือกตั้งกันเมื่อไหร่ แต่ได้ปรากฏความเคลื่อนไหวที่ฮือฮากันไม่น้อย เมื่อผู้ที่เตรียมตัวจะลงชิงชัยและเป็นหนึ่งในตัวเก็ง คือ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. ตัดสินใจถอนตัวไปแล้ว
ทั้งที่โดยกระแสความสนใจของประชาชน ถือว่า “บิ๊กแป๊ะ” หรือ พล.ต.อ.จักรทิพย์ มีคะแนนนิยมใกล้เคียงกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อีกหนึ่งในผู้ที่เตรียมตัวจะลงสนามนี้
แถมมีการลงพื้นที่พบปะชาวบ้าน ลงช่วยเหลือผู้เดือดร้อนในสถานการณ์โควิดอย่างขยันขันแข็ง
การที่จู่ๆ ตัดสินใจถอนตัวเช่นนี้ มีข่าวทำนองว่า ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาความขัดแย้งในพรรคพลังประชารัฐ นับว่าส่งผลสร้างความปั่นป่วนมาถึงด้วย เนื่องจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ แม้ลงในนามอิสระ แต่คงเชื่อมกับเครือข่ายพลังประชารัฐใน กทม.
เหตุผลอีกอย่าง คงเพราะประเมินแล้วการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. น่าจะเลือกกันช่วงเดือนมีนาคม 2565 โดยช่วงเวลาเป็นเช่นนี้ เท่ากับว่า จากนั้นอีกไม่นานมากนัก การเลือกตั้งใหญ่ก็คงจะมาถึง ทั้งนี้ คาดว่าการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศคงเป็นต้นปี 2566 ซึ่งอายุสภาผู้แทนชุดนี้ครบวาระพอดี หรือหากมีการยุบสภา ก็อาจเลือกเร็วกว่านั้น อาจจะเลือกกันในปี 2565 ก็ได้
สนามใหญ่น่าจะท้าทายมากกว่า
หลังจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์เกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 2563 ได้แสดงความมุ่งมั่นจะทำงานการเมืองต่อ ยังไม่ขอกลับบ้านไปเลี้ยงหลาน เนื่องจากชื่อเสียงและผลงานในช่วง 5 ปีที่เป็น ผบ.ตร.ยังติดตาชาวบ้าน
เหมือนมีของดีอยู่กับตัว ไม่ควรให้เสียของ
แต่ความที่ ผบ.ตร.ต้องเป็นสมาชิกวุฒิสภาโดยตำแหน่งด้วย และต้องพ้นจากการเป็น ส.ว.เมื่อพ้นจากตำแหน่ง ผบ.ตร.โดยอัตโนมัติ
ตามรัฐธรรมนูญได้กำหนดข้อห้ามเอาไว้ประการหนึ่งว่า
“บุคคลผู้เคยดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา และสมาชิกภาพสิ้นสุดลงมาแล้วยังไม่เกินสองปี จะเป็นรัฐมนตรี หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมิได้ เว้นแต่เป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น”
เท่ากับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ติดข้อห้ามนี้ด้วย จึงต้องมุ่งหน้าลงสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ยังไม่สามารถลงสนามใหญ่ได้ทันที
แต่ลงเดินเก็บคะแนนเสียงในพื้นที่กรุงเทพฯมาเป็นปี กำหนดวันเลือกผู้ว่าฯยังไม่ชัดเจนเสียที แล้วมีเรื่องยุ่งๆ ในพลังประชารัฐมากระทบอีก
เมื่อมานั่งนับนิ้วดูเวลาที่จะพ้นจากข้อห้าม 2 ปี หลังพ้นเก้าอี้วุฒิฯ ก็คือเดือนกันยายน 2565 เช่นนี้แล้วคงทำให้บิ๊กแป๊ะตัดสินใจ เลือกไปเล่นสนามใหญ่เลยดีกว่า
เส้นทางของอดีต ผบ.ตร.ที่โชว์ลีลาและศิลปะการฝ่ามรสุมและคลื่นใต้น้ำ จนสามารถนั่งเก้าอี้อันมากด้วยอาถรรพ์ยาวนานถึง 5 ปี แถมครบวาระ ไม่มีอุบัติเหตุ ไม่มีฟ้าผ่า
จากนี้ไปต้องจับตาว่าจะก้าวไปสู่ถนนการเมืองใหญ่ได้อย่างสดใสขนาดไหน ไปได้ไกลเพียงใด
ขณะเดียวกัน ประเด็นจังหวะเวลาของสนามผู้ว่าฯ กทม. ที่ลากยาวไปจนใกล้ช่วงเวลาของสนามใหญ่นั้น
แม้แต่ผู้ที่เตรียมจะลงสนามและเป็นระดับเต็งจ๋าอย่าง ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ก็มีข่าวว่าเริ่มลังเลแล้วเหมือนกัน
