สถานีคิดเลขที่ 12 : ส่วย กทม. โดย นฤตย์ เสกธีระ [email protected]

การเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคก้าวไกลนั้นดุเดือดมาก

หลังจาก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค เปิดตัว นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร เป็นตัวแทนของพรรคลงสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.

นายวิโรจน์ก็ประกาศแนวทางการทำงาน

เรื่องการบริหารของ กทม. นายวิโรจน์นำเสนอให้มีการประสานงานที่ดี

การประสานงานที่ดีทำให้ปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม ทางเท้า อาชญากรรม รวมไปถึงอุบัติเหตุบนท้องถนน ได้รับการแก้ไข

แม้หลายปัญหาที่เกิดขึ้นเกินกว่าอำนาจผู้ว่าฯ กทม. แต่จะบอกว่าไม่มีอำนาจ แล้วปล่อยให้คน กทม.อยู่ตามยถากรรมไม่ได้

นายวิโรจน์บอกไว้บนเวที

อย่างไรก็ตาม ในบรรดาถ้อยแถลงการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครชิงผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคก้าวไกลทั้งหมด เรื่องที่ถือว่าดุเดือดที่สุดเห็นจะเป็นเรื่อง ส่วย กทม.

นายวิโรจน์ประกาศจะเข้าไปล้างส่วย กทม.

บอกว่า หมดเวลาซุกปัญหาไว้ใต้พรม ถึงเวลาต้องเลือกผู้ว่าฯที่ชนกับปัญหาเพื่อประชาชน ส่วยกรุงเทพฯ คือปรสิตที่กัดกิน กทม. ถ้าเรากำจัดส่วยนี้ไปได้ กรุงเทพฯ จะดีขึ้นในหลายมิติ

นายวิโรจน์ย้ำว่า ส่วยกัดกินชาวบ้านตาดำๆ ฯลฯ ขั้นต่ำ 5 พันล้าน ขั้นสูงคือ 5 หมื่นล้าน คิดเป็น 15% ของงบประมาณกรุงเทพมหานคร

พร้อมทั้งตอกย้ำหลายครั้งบนเวทีว่า ถ้าผู้ว่าฯ กทม. ชื่อวิโรจน์ การรีดไถจะหยุดทันที หากใครมีหลักฐานจะลากคอคนนั้นมาลงโทษ

คำประกาศดังกล่าวเปิดเผยให้สังคมทราบว่า กทม.มี ส่วย

เปิดเผยให้ทราบว่า ในพื้นที่ กทม.มีการรีดไถ

จริงไม่จริง คงต้องรอพิสูจน์

อย่างไรก็ตาม เรื่องส่วย กทม.นี้ แม้การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ยังไม่กำหนด และแม้ว่านายวิโรจน์จะยังไม่สมัครรับเลือกตั้ง

แต่เมื่อเปิดเผยว่า มีส่วย กทม. และมีการรีดไถในพื้นที่ กทม.

หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องคงจะนิ่งเฉยไม่ได้

ทั้งกรุงเทพมหานครเอง ทั้ง ป.ป.ช. ป.ป.ท.ที่รับผิดชอบพื้นที่ กทม. ทั้งองค์การต่อต้านคอร์รัปชั่น

รวมไปถึงพรรคก้าวไกลในฐานะผู้เปิดประเด็น จำเป็นต้องสร้างความชัดเจนให้เกิดขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นสถิติคำร้องทุกข์จากกลุ่มผู้ตกเป็นเหยื่อ ซึ่งถือเป็นข้อกล่าวหาเก่าที่เกิดขึ้นมาแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นการเปิดรับคำร้องเรียนเกี่ยวกับการรีดไถ นับตั้งแต่บัดนี้ ซึ่งถือเป็นข้อกล่าวหาและหลักฐานใหม่

ทุกประการต้องเกิดขึ้นก่อนที่การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.จะเกิดขึ้น

เชื่อว่าหากมีการรีดไถส่วยจริง อีกไม่นานเรื่องราวต่างๆ จะลอยขึ้นมาบนผิวน้ำ

ใครรีดไถใคร ใครสั่งให้รีดไถ ใครรับส่วยจากใคร

แต่ถ้าการรีดไถไม่มีจริง เรื่องราวต่างๆ คงจะเงียบหาย

ดังนั้น การพิสูจน์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับส่วย กทม.มีความสำคัญ

ในด้านคดีความนั้นมีความสำคัญอยู่แล้ว เพราะการรีดไถเป็นเรื่องผิดกฎหมาย

แต่หากมีการพิสูจน์ว่ามี หรือไม่มี ผลที่ตามมาจะกระทบไปถึงการเมืองด้วย

ยิ่งเป็นการเมืองในพื้นที่ กทม. ยิ่งมีผลสะเทือน

สะเทือนตามข้อเท็จจริง และการพิสูจน์

พื้นที่ กทม.มีส่วย มีการรีดไถ จริงหรือไม่

อีกไม่นานข้อมูลต่างๆ น่าจะปรากฏออกมา

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่