| ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
|---|
ถามว่า คาดหวังอย่างไรต่อกรณี คลิปเสียง “หยอกล้อ” เงิน 15 ล้านในเรื่องหวย-หวย
ก็คงต้องตอบว่า คาดหวังในระดับหยอกล้อ นั่นแหละ
คือ ยากที่จะจับมือใครดมได้
ผล ก็คงออกมาในทำนอง “แก้หวยแพง” คือ แก้อย่างไรก็แก้ไม่ได้
ย่ำแย่กว่านั้น ในระหว่างทางของ “การแก้” นั้น มีการแวะหาผลประโยชน์ตลอดรายทาง
“กินแบ่ง” “กินรวบ” ตามแต่จะถนัด และคงจะกินแบ่ง-กินรวบ เช่นนั้นต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในความไม่คาดหวังที่จะหาคนมารับผิดชอบได้ดังกล่าว
ก็ใช่ว่า กรณีคลิป 15 ล้านไม่ส่งผลอะไรเลย
อย่างน้อยที่สุด คำเย้ยหยันจากนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ว่า ควรจะมีการตั้งพรรค “รวมหวยสร้างชาติ” กันให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
ก็ส่งผลสะเทือนต่อ การสร้างพรรคใหม่ ของนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ไม่น้อยเลยทีเดียว
อย่าลืมว่า พรรคใหม่ คือพรรค “รวมไทยสร้างชาติ” นี้ มีเจตจำนงแน่วแน่ ที่จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปต่อในเส้นทางของอำนาจ
และยังมีการประเมินและคาดหมายกันว่าจะเป็นทางเลือกอันสำคัญที่ตั้งแท่นรอไว้ในกรณีที่เกิดความไม่ลงตัวในการจัดสรรอำนาจในกลุ่ม 3 ป.
ซึ่งจนถึงวันนี้ ก็ยังปรากฏร่องรอย ความไม่ลงตัวให้เห็นอยู่
อย่างการตั้งกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ชุดใหม่ เราได้เห็น “นายทหาร” ใกล้ตัวของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เข้ามายึดกุมงานสำคัญของพรรคหลายคน
สะท้อนว่า พล.อ.ประวิตร เดินหน้ากระชับอำนาจในพรรคเอาไว้ในมืออย่างต่อเนื่อง และชัดเจน
ซึ่งหากเป็นการเตรียมพร้อมเพื่อสู้กระแสแลนด์สไลด์ของพรรคคู่แข่งสำคัญอย่างเพื่อไทยก็คงไม่มีปัญหาและควรทำเสียด้วยซ้ำ
แต่กระนั้นต้องไม่ลืม ยิ่ง พล.อ.ประวิตรกำชับอำนาจในพรรคมากเท่าใด โอกาสที่ พล.อ.ประยุทธ์ หรือกลุ่มตัวแทน จะเบียดแทรกเข้ามาแชร์ “การนำ” ก็ยากยิ่งขึ้นไปด้วย
การลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ ของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ซึ่งเป็นคนของ พล.อ.ประยุทธ์ คือ ตัวอย่างรูปธรรม ที่ยืนยันในเรื่องนี้ได้ดี
ตอนนี้ยังไม่รู้ว่า นายพีระพันธุ์ จะไปเริ่มต้นใหม่ทางการเมืองที่ใด
แต่ก็ถูกคาดหมายว่าอาจจะไปจอดป้ายที่ พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่นายเสกสกล ตั้งไข่เอาไว้ เพื่อที่จะแผ้วทางรอ พล.อ.ประยุทธ์
เมื่อเป้าหมายใหญ่และสำคัญเช่นนั้น พรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ควรสุกสกาวสดใสในทางการเมือง
ภาพพจน์พรรคจะต้องดูดี มีราคา สามารถเป็น “แม่เหล็ก” ดูดเอานักการเมืองเข้ามาร่วมขบวนได้อย่างโดดเด่น
แต่พลันที่ นายชูวิทย์ เสนอคำว่า “รวมหวยสร้างชาติ” ขึ้นมาเทียบเคียง
ย่อมทำให้ภาพพจน์ของพรรคใหม่ “หมอง” ไปหลายขีด
และแม้เราจะไม่ได้คาดหมายว่า จะสามารถ จับมือใครดม ได้ในกรณี เรื่องผลประโยชน์จากหวย และกรณีคลิปเสียง 15 ล้าน
แต่กระนั้น การที่ เรื่องของแรมโบ้อีสาน ถูกนำเสนอเข้าสู่ คณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ ในสภา ได้ถูกนำเสนอ เข้าสู่ ป.ป.ช. ทำให้ ขบวนการตรวจสอบเริ่มต้นขึ้น
ซึ่งกระบวนการตรวจสอบนี้ แม้จะไม่สามารถลงโทษใครได้ แต่ข้อมูลต่างๆ น่าจะถูกแบต่อสาธารณะไม่น้อย
นั่นคงทำให้ นายเสกสกล ไม่อาจจะสบายใจได้นัก
และไม่ใช่นายเสกสกลเท่านั้น พล.อ.ประยุทธ์ ที่ติดปีกให้นายเสกสกลมาโดยตลอด รวมถึงให้โอกาสในกรณี “หวย” ชัดเจน คงได้ผลสะเทือนไปด้วย
เส้นทางแห่งอำนาจควรจะราบรื่น กลายเป็นเส้นทางขรุขระ สะเทือนไปทั้งขบวนรวมหวยและรวมไทย
