สถานีคิดเลขที่ 12 : ไว้วางใจ! โดย จำลอง ดอกปิก

การเมืองหลัง สงกรานต์ เข้าโหมดร้อน

ก่อนถึงศึกใหญ่

มีสนามเล็ก เก้าอี้วีไอพี วัดคะแนนนิยมพรรคการเมือง ได้เป็นอย่างดี ศึกชิงตำแหน่งผู้ว่าฯกทม. เป็นสนามประมือ

22 พฤษภาคม คือวันพิพากษา

Advertisement

เวลาอีกเดือนเศษก่อนถึงวันกาบัตร เชื่อได้ว่า การแข่งขันระหว่างผู้สมัคร จะทวีความเข้มข้นขึ้นเป็นลำดับ

โปรแกรมถัดจากนั้น

สมัยประชุมสภา เปิดวันเดียวกัน เริ่มจาก 22 พฤษภาเป็นต้นไป

Advertisement

สมัยประชุมสภาครั้งที่จะถึงนี้ ว่ากันว่า เป็นสมัย ได้-เสีย ทางการเมือง รัฐบาลจะอยู่ครบเทอมได้ตามเป้าหมายหรือไม่ อยู่ที่ 120 วันในสมัยประชุมนี้

หากผ่านไปได้

แนวโน้มทะลุเป้า 4 ปี ก็อยู่ไม่ไกล

ที่จริงหากไร้ซึ่งปัญหาความเป็นเอกภาพ เรื่องอยู่ครบ 4 ปี ไม่น่ายากเย็นนักสำหรับรัฐบาล

แต่มิใช่ว่า ด้วยเหตุ ประสบความสำเร็จล้นเหลือในการบริหารราชการแผ่นดิน แก้ปัญหา ยกระดับการพัฒนาประเทศชาติ

ประชาชนเรียกร้อง ขอให้อยู่ต่อ

เท่าที่สดับตรับฟัง ตรงกันข้ามด้วยซ้ำ

แต่เนื่องจาก เสียงของฝ่ายรัฐบาลเป็นเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร รัฐบาลจึงได้รับความไว้วางใจ บริหารประเทศต่อ

แม้ฝ่ายค้านงัดมาตรการตรวจสอบขั้นสูงสุด ยื่นญัตติ-เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจมาแล้วหลายครั้ง

ก็ไม่สามารถโค่นล้มได้ เสียงของฝ่ายรัฐบาลยังเป็นปึกแผ่น แน่นเหนียว

แต่พลันที่พลังประชารัฐแตก แยกเป็นสองพรรค เสียงรัฐบาลปริ่มน้ำ

สถานการณ์ที่เคยแน่นอน กลับมามีความไม่แน่นอน ถ้าเจอฝ่ายค้านยื่นญัตติซักฟอกอีกครั้ง ในสมัยประชุมสภาที่จะถึงนี้

รัฐบาลบิ๊กตู่จะฝ่าด่านอันตรายไปได้หรือไม่ เริ่มเป็นคำถาม

ไม่นับรวม มรสุมอีกหลายลูกที่รัฐบาลต้องเผชิญ ทั้งการยื่นตีความวาระดำรงตำแหน่ง 8 ปี ในเดือนสิงหาคมหรือแม้แต่เมื่อแก้กฎหมายลูกเสร็จทั้ง 2 ฉบับ จะมีเสียงเรียกร้อง กดดันยุบสภา

สารพัดปัญหาประเดประดัง

สมัยประชุมนี้ จึงถูกมอง เป็นสมัยได้-เสีย

เนื่องจากรัฐบาล ไม่เคยตกอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยง อย่างนี้มาก่อน โดยเฉพาะ จุดตาย

เรื่องจำนวนเสียงสนับสนุนในสภา

ปัจจัยนอกเหนือการควบคุม ของบิ๊กตู่

ขณะที่เรื่องอื่นๆ นั้น ดูอันตราย มีผลกระทบต่ออายุขัยรัฐบาลก็จริงแต่น้อยมาก นายกฯคงไม่ตัดสินใจยุบสภา เมื่อกฎหมายลูกมีผลบังคับใช้ เพราะได้ยืนยันมาแล้วหลายครั้ง เรื่องวินิจฉัย ตีความ ก็เก็บคลีนชีต ผ่านมาได้ บริสุทธิ์ผุดผ่องโดยตลอด

หากจะมีก็ เสียงในสภา เท่านั้น

ถ้าพรรคเศรษฐกิจไทยผสมโรงฝ่ายค้าน โหวตไม่ไว้วางใจอย่างที่ฝ่ายค้านฝันอยากให้เกิดขึ้นจริง บิ๊กตู่อาจเหนื่อย

ถึงขั้นตกเก้าอี้เอาได้

แต่โดยที่ พี่น้อง เขาร่วมสำรับ หม้อข้าวเดียวกัน

ฝ่ายค้านจะหวังยืมมือฆ่าฟัน คงยาก

ทางเดียวที่อาจพอเป็นไปได้ คือลงมือเชือดเอง ตรวจสอบ ซักฟอกด้วย ข้อมูล ที่หนักแน่น
สมฐานะฝ่ายคานอำนาจ

พิสูจน์ให้ประชาชนเห็นว่า ได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว

ฝ่ายค้านไม่ต้องคิดเผื่อ รัฐบาล จะผ่านกฎหมาย ผลักดันงบประมาณประจำปี 66 ออกมาใช้อย่างไร

กระบวนการตรากฎหมาย มีทางออก

ไม่เกิดเดดล็อก ขาดงบประมาณใช้จ่ายอย่างแน่นอน

ฝ่ายค้าน ไม่ต้องรีรอ หากเห็นว่า รัฐบาลไม่ได้เรื่อง ปล่อยบริหารต่อไป ยิ่งนานวันก็ยิ่งทำเสียหาย

วันเดียวก็ยอมไม่ได้ เปิดสภามา ต้องยื่นทันที

เลื่อนวัน ยืดปฏิทินอย่างนี้ ไม่ต่างกับไว้ยังวางใจ ให้วีซ่าอยู่ต่อไป เนื่องจากมีภารกิจผลักดันงบประมาณ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image