สถานีคิดเลขที่ 12 : ฝักใฝ่รัฐประหาร

สถานีคิดเลขที่ 12 : ฝักใฝ่รัฐประหาร เมื่อสถานการณ์บ้านเมืองมาถึงจุดที่ส่อว่า

เมื่อสถานการณ์บ้านเมืองมาถึงจุดที่ส่อว่าอาจจะเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองได้ ดังที่เกิดกระแสนายกฯสำรอง เนื่องจากสภากำลังจะเปิดสมัยประชุม รัฐบาลต้องอาศัยเสียงโหวต ที่ไม่ชัดเจนว่าจะมีเพียงพอหรือไม่ เพราะเกิดความขัดแย้งแตกแยกภายในรัฐบาลเอง มี ส.ส.พรรครัฐบาล แตกออกไปอยู่พรรคใหม่ พร้อมกับส่งสัญญาณขู่ทำนองว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้

อีกส่วนหนึ่ง พรรคการเมืองต่างๆ พากันเตรียมตัวเลือกตั้งใหม่อย่างคึกคัก เพราะการยุบสภาอาจจะเกิดขึ้นตอนไหนก็ได้ หรือไม่เช่นนั้นก็ปลายปี ตามที่มีข่าวว่าผู้นำรัฐบาลต้องการขอให้ได้เกียรติประวัติหน้าตาในเวทีประชุมเอเปคเดือนพฤศจิกายนเสียก่อน

ในการเตรียมตัวของพรรคการเมืองนี่เอง พรรคใหญ่อย่างเพื่อไทย ตกเป็นเป้าจับตา เมื่อมีการเปิดตัว “อุ๊งอิ๊ง” และประกาศเป้าหมายแลนด์สไลด์ เพื่อเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งหน้า จะได้เข้ามาแก้วิกฤตทางเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน

แน่นอนว่า ในทันที พรรคคู่แข่งรีบหยิบประเด็นทายาททักษิณขึ้นมาวิพากษ์วิจารณ์ ชี้ว่าพรรคนี้ก้าวไม่พ้นทักษิณ เอาลูกสาวมาสืบทอดอำนาจ

Advertisement

โจมตีไปมา เกิดปมร้อน เมื่อพยายามจะปลุกผีทักษิณ ว่าเป็นชนวนที่ทำให้เกิดรัฐประหาร

เกิดข้อถกเถียงเรื่องบรรทัดฐานของความเป็นนักประชาธิปไตยไปในที่สุด

เพราะพรรคคู่แข่งของเพื่อไทย ต้องพยายามโทษว่า เหตุที่ทหารต้องออกมายึดอำนาจนั้นเพราะนักการเมืองนี่แหละทุจริตโกงกิน เพราะพรรคเพื่อไทยยังยึดติดกับทักษิณ และพยายามจะพาทักษิณกลับบ้านให้ได้ ก็จะกลายเป็นความขัดแย้ง ทหารก็ต้องรัฐประหารอีก

Advertisement

นี่คือวิธีการทำให้สังคมมองว่า ความผิดอยู่ที่นักการเมือง อยู่ที่พรรคเพื่อไทยกับทักษิณ เป็นตัวจุดชนวนรัฐประหาร

เลยโดนตอบโต้จากฝ่ายเพื่อไทย จากนักวิชาการ จากนักประชาธิปไตย โดยชี้ว่า บางพรรคชอบโทษนักการเมืองว่าทำตัวยั่วยุให้ทหารออกมา แต่ไม่เคยโทษทหารที่เอารถถังออกมาล้มประชาธิปไตย

แถมเอาแต่ชี้หน้าด่านักการเมือง พร้อมๆ กับไปร่วมยอมรับว่า การรัฐประหารสามารถทำได้ ถ้ามีเงื่อนไขคือนักการเมืองเละเทะ

นักการเมืองของบางพรรค ไม่เคยต่อต้านรัฐประหาร ไม่เคยชี้ว่าการแทรกแซงการเมืองของทหาร คือเรื่องที่ไม่ควรเกิด

มัวแต่จะโจมตีพรรคเพื่อไทย จนกลายเป็นเปิดโปงตัวเองว่า ไม่มีหลักการประชาธิปไตยเลย

แน่นอนว่า คู่แข่งทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย ต้องพยายามจับจุดอ่อนของพรรคนี้ มาโหมโจมตี เพื่อให้ชาวบ้านเสื่อมศรัทธา

นั่นย่อมทำได้ แต่ไม่ใช่ไปโทษว่า ปล่อยให้พรรคนี้กลับมาใหญ่ จะย้อนกลับรอยเดิม จนทหารต้องรัฐประหารอีก

เช่นนี้จะกลายเป็นผู้ร่วมสนับสนุนรัฐประหารดีๆ นี่เอง

แถมไม่รับรู้เลยว่า พฤติกรรมของนักการเมืองที่ร่วมกันขับไล่ยิ่งลักษณ์ แล้วพอยิ่งลักษณ์ยอมยุบสภา กลับบอกว่ายังไม่ควรเลือกตั้ง ทำให้บ้านเมืองเข้าทางตัน

นักการเมืองกลุ่มนี้ คือ ผู้สร้างเงื่อนไขให้เกิดรัฐประหารตัวจริง แล้วผู้นำรัฐประหารอยู่มายาวนานถึง 8 ปีแล้ว

มีวิสัยทัศน์ระดับโลกหรือไม่ มีความทันสมัยแก้วิกฤตใหม่ๆ ได้ฉับไวหรือไม่ สำคัญสุดปากท้องประชาชน อิ่มขึ้น หรือยิ่งหิวโหยตลอด 8 ปีที่ผ่านมา

การร่วมกันสร้างเงื่อนไขให้เกิดรัฐประหารแล้วได้รัฐบาลทหาร พร้อมรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย สร้างปัญหาความพัฒนาก้าวหน้าของประเทศชาติ

นี่แหละยิ่งทำให้ชาวบ้านหันไปเลือกพรรคที่เคยสร้างความสำเร็จทางเศรษฐกิจเพื่อกลับมากู้วิกฤตปากท้อง

จนต้องมานั่งผวาจะเกิดแลนด์สไลด์

สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image