สถานีคิดเลขที่ 12 : ผู้ว่าฯชัชชาติ

สถานีคิดเลขที่ 12 : ผู้ว่าฯชัชชาติ ยินดีกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์

ยินดีกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่ได้รับคะแนนสนับสนุนให้เป็นผู้ว่าฯกทม.แบบที่เรียกได้ว่าแลนด์สไลด์

ก่อนการหย่อนบัตรเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. บรรดาเซียนการเมืองมองว่า ผู้ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ได้คะแนนไม่ถึงล้าน เพราะผู้แข่งขันมีดีกันทุกคน

แต่สุดท้ายคนกรุงเทพฯได้แสดงเจตนารมณ์ ลงคะแนนเลือกนายชัชชาติ 1,386,215 คะแนน

ทุบสถิติการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.

Advertisement

ขณะที่ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ได้ 254,647 คะแนน สูสีเบียดกันกับ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร พรรคก้าวไกล ที่ได้ 253,851 คะแนน

ส่วน นายสกลธี ภัททิยกุล ม้าตีนปลายเร่งสปีดในช่วงหลัง ได้ 230,455 คะแนน

ได้แต้มมากกว่าอดีตผู้ว่าฯกทม. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ได้ 214,692 คะแนน

Advertisement

คะแนนที่ปรากฏมองได้ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ คนกรุงเทพฯต้องการพัฒนาเมืองกรุง เบื่อหน่ายการแบ่งฝักฝ่าย

ขณะที่ผลการเลือกตั้ง ส.ก. ก็มีปรากฏการณ์ที่น่าจับตา

จากจำนวนเก้าอี้ทั้งหมด 50 เขต 50 ส.ก.

พรรคเพื่อไทยได้ ส.ก.มากที่สุด คือ ได้ 20 เขต รองลงมาคือ พรรคก้าวไกล 14 เขต พรรคประชาธิปัตย์ได้ 9 เขต

พรรคไทยสร้างไทย พรรคพลังประชารัฐ ได้พรรคละ 2 เขต ส่วนกลุ่มรักษ์กรุงเทพ ได้ 3 เขต

จากภาพรวมที่ปรากฏ ต้องยอมรับว่า พรรคที่เคยอยู่ตรงข้ามกับการรัฐประหารได้รับการสนับสนุนมากขึ้น

ส่วนพรรคพลังประชารัฐที่ตอนหลังมีความไม่ปรองดองภายใน ส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งซ่อมมาแล้ว

คราวนี้กระทบต่อการเลือกตั้ง ส.ก.ด้วย โดยได้ ส.ก.แค่ 2 เขตเท่านั้น

น่าเชื่อว่า ผลจากการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. และเลือกตั้ง ส.ก.ครั้งนี้ ทุกพรรคจะนำกลับไปทำการบ้านเพิ่ม เพื่อหาหนทางชนะใจประชาชน

ถือเป็นข้อดีอีกข้อที่ทุกพรรคได้รับจากการเลือกตั้ง

สำหรับนายชัชชาติอาจกล่าวได้ว่า เป็นตัวอย่างผู้นำที่ประชาชนต้องการ

วันนี้ผู้คนไม่ต้องการแบ่งฝักฝ่าย ไม่ต้องการความขัดแย้งรุนแรง

ผู้คนต้องการคนตั้งใจที่จะทำงานให้กับพวกเขา เพราะสถานการณ์ทั่วไปนั้นวิกฤต ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม

ผู้คนจึงต้องการคนที่พร้อมแก้ไขปัญหาให้ในทันที

ต้องการคนที่เข้ามาแล้ว “ทำงาน ทำงาน ทำงาน”

นายชัชชาติเป็นบุคคลที่คนกรุงต้องการให้เข้ามาทำงานที่สุด

เพราะนายชัชชาติลงสมัครในนามอิสระ ตอกย้ำว่าไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย

หลายครั้งที่นายชัชชาติถูกโจมตี นายชัชชาติก็รับมือด้วยการรับฟัง แล้วแสดงความเห็นด้วย หรือปฏิเสธตามเหตุผลและความคิดเห็นของตัวเอง

นายชัชชาติแสดงความตั้งใจทำงานด้วยการลงพื้นที่พบปะชุมชน ผู้คน และอื่นๆ

ทุกอย่างที่ดำเนินการ 2 ปี เป็นสิ่งที่ยืนยันว่า นายชัชชาติพร้อมทำงานทันที

ส่วนผลงานจะเป็นอย่างไรต้องรอติดตาม แต่ทุกๆ ความสำเร็จและล้มเหลว จะเป็นคะแนนความนิยมในตัวนายชัชชาติต่อไปในอนาคต

หากทำได้ตามสัญญาก็สอบผ่าน ถ้าทำไม่ได้ก็สอบตก

ทุกอย่างเป็นไปตามวิถีประชาธิปไตย

พรรคการเมืองที่ต้องเสนอแคนดิเดตนายกฯหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า พอจะมีบุคคลที่มีลักษณะเช่นนี้ไหม
ถ้ามีก็แสดงตัวออกมา

เพราะเชื่อว่า นอกจากผู้นำเมืองหลวงแล้ว คนไทยยังต้องการคนที่มีลักษณะเช่นนี้เป็นผู้นำประเทศ

เป็นคนที่พร้อมทำงาน พร้อมแก้วิกฤตการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม

ที่สำคัญคือเป็นผู้นำของทุกคนไม่แบ่งฝักฝ่าย และปฏิเสธการใช้ความรุนแรง

นฤตย์ เสกธีระ
[email protected]

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image