ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
---|
หลังปรากฏผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.และ ส.ก.ที่มีแรงสั่นสะเทือนต่อเนื่องไปถึงการเมืองใหญ่ ทำเอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องปฏิเสธเสียงแข็งว่า เป็นผลการเลือกตั้งที่ไม่เกี่ยวอะไรกับเรตติ้งของนายกรัฐมนตรี และไม่เกี่ยวกับคะแนนนิยมรัฐบาล
เพราะการที่ประชาชนเทเสียงให้กับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อย่างถล่มทลาย และเลือก ส.ก.ในซีกของพรรคฝ่ายค้านเป็นส่วนใหญ่นั้น ทำให้มองกันว่าเป็นเสียงสะท้อนถึงความเบื่อหน่ายในรัฐบาลนี้อย่างชัดแจ้ง
ดูง่ายๆ ก่อนจะเดินทางออกจากบ้านไปเข้าคูหากาบัตรนั้น ผู้คนส่วนใหญ่ต้องเผชิญกับสภาพราคาน้ำมันที่แพงอย่างมหาประลัย เนื้อหมู พืชผัก น้ำมันปาล์ม น้ำมันพืช ก็ขึ้นราคาไปเรื่อย
โดยที่ไม่เห็นว่ารัฐบาลนี้จะมีฝีไม้ลายมือมีวิสัยทัศน์ในการคลี่คลายปัญหาเศรษฐกิจให้กับชาวบ้านได้อย่างไร
ยิ่งเทียบวิสัยทัศน์ของนายชัชชาติสมัยเป็นรัฐมนตรี ไปจนถึงวิสัยทัศน์ในการเสนอนโยบายแก้ปัญหา กทม.
แบบนี้ระหว่างเดินเข้าคูหา บรรดาชาวบ้านก็คงตัดสินใจได้ไม่ยากว่าจะเลือกชัชชาติ เลือก ส.ก.ของพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล
แถมยังวิจารณ์กันอีกว่า ให้ชัชชาติโชว์ฝีมือในการทำหน้าที่ผู้ว่าฯให้ประจักษ์ ถ้าทำได้ดีจริง มากด้วยความสามารถและวิสัยทัศน์จริงๆ ต่อไปจะสนับสนุนให้ชัชชาตินี่แหละ เป็นนายกรัฐมนตรีแก้ปัญหาระดับประเทศชาติไปเลย
ดังนั้น ที่ พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธว่าผลการเลือกตั้งผู้บริหาร กทม.ไม่เกี่ยวกับเรตติ้งนายกฯและรัฐบาล เอาเข้าจริงๆ น่าจะเกี่ยวอย่างมาก
อีกทั้งมีคำถามต่อมา จากผลการเลือกตั้งที่เพิ่งผ่านพ้นไปนี้ว่า การที่พรรคพลังประชารัฐได้ ส.ก.เพียง 2 ที่นั่ง แสดงว่าความนิยมลดลงไปด้วยหรือไม่
ถ้ากล่าวในแง่การลงสนามเลือกตั้ง ส.ก. ต้องยอมรับว่านี่เป็นครั้งแรกของพลังประชารัฐ จึงอาจจะยังสรุปอะไรไม่ได้
แต่ช่วยไม่ได้ เมื่อมีการวิเคราะห์ผลการเลือกตั้ง แล้วเชื่อมโยงไปถึงคะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาล ซึ่งไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องชาวบ้านได้
ก็มักจะเหมารวมไปถึงพรรคพลังประชารัฐด้วย เพราะความเป็นพรรคหลักของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ และเป็นพรรคที่เสนอชื่อประยุทธ์เป็นนายกฯ
นี่แหละคือปัญหาใหญ่ของพลังประชารัฐ เพราะใส่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่เคยมีความเชื่อมโยงอะไรกับพรรคโดยตรง คนในพรรคแทบจะไม่สามารถนำเสนอหรือผลักดันการทำงานในระดับรัฐบาลให้กับนายกฯได้
ตอนที่เริ่มต้นเกิดวิกฤตโควิด แล้วรัฐบาลจัดหาวัคซีนมาล่าช้า ตอนนั้น ส.ส.พรรคพลังประชารัฐก็เคยอึดอัด เพราะถูกชาวบ้านในพื้นที่รุมสวด ทั้งที่พลังประชารัฐไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการตัดสินใจเรื่องวัคซีนแต่อย่างใด
ตอนนี้เป็นวิกฤตเศรษฐกิจปากท้อง ก็เข้ารอยเดิมอีก คือ ส.ส.พลังประชารัฐถูกสวดหูอื้อ ทั้งที่กระทรวงด้านเศรษฐกิจการค้า พลังงาน เป็นโควต้าของนายกฯและเป็นของพรรคอื่น
ส่วนหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นรองนายกฯแบบลอยๆ ไปดูน้ำดูคลองดูที่ดิน
หน้าที่หลักของหัวพน้าพรรคพลังประชารัฐคือ แก้เกมการเมืองประคองรัฐบาล
นี่คือปัญหาใหญ่ ที่คนในพรรคพลังประชารัฐต้องขบคิด
ผลจากการเลือกตั้งผู้ว่าฯและ ส.ก.ที่สะท้อนเรตติ้งนายกฯและรัฐบาลแน่ๆ
และเรตติ้งนายกฯก็มีผลฉุดพลังประชารัฐให้ถดถอยไปด้วยใช่หรือไม่
สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน