สถานีคิดเลขที่ 12 : มือประชาชนสั่งสอน

สถานีคิดเลขที่ 12 : มือประชาชนสั่งสอน การอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี

การอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ที่พรรคร่วมฝ่ายค้านวางไทม์ไลน์ที่จะยื่นญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 15 มิถุนายน พร้อมกับล็อกเป้าอภิปราย นายกฯและรัฐมนตรี รวม 10 คน

จำแนกแยกย่อยเป้าการอภิปรายทั้ง 10 คน แบ่งเป็น พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) 6 คน นำโดยพี่น้องกลุ่ม 3 ป. คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรค พปชร. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รวมทั้ง นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค พปชร. นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการพรรค พปชร. และ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร.

พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) 2 คน คือ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ปชป. และ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค ปชป.

พรรคภูมิใจไทย (ภท.) 2 คน คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท. และ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรค ภท.

Advertisement

ผ่านยุทธการที่พรรคร่วมฝ่ายค้านจะใช้อภิปราย ในครั้งสุดท้ายของรัฐบาลชุดนี้ คือ “เด็ดหัว สอยนั่งร้าน” ด้วยการพุ่งเป้าอภิปรายทำลายความน่าเชื่อถือ หัวหน้าและเลขาธิการพรรคของพรรคร่วมรัฐบาลที่มีส่วนรวบรวมเสียงสนับสนุนให้รัฐบาลที่มีพรรค พปชร.เป็นแกนนำ อยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ เพื่อหวังให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจส่งผลต่อการเลือกตั้งครั้งต่อไป

ไม่ให้พรรคร่วมรัฐบาลกลับมาฟอร์มเสียงจัดตั้งรัฐบาลกันอีกครั้ง

แม้ในความเป็นจริงการเมืองด้วยเสียงของพรรคร่วมรัฐบาล และเสียงของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่มีอยู่ในขณะนี้ คือ 269 ต่อ 208 เสียง ฝ่ายของรัฐบาลมีมากกว่าถึง 61 เสียง

Advertisement

ถ้าไม่มีปฏิบัติการล้มเก้าอี้นายกฯ เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ที่ก่อการโดยพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง โอกาสที่ฝ่ายค้านจะรวบรวมเสียงมาล้มฝ่ายรัฐบาล คงเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ

ยิ่งในทางการเมือง ต่างฝ่ายต่างรู้ทางกันเป็นอย่างดีว่าจะแก้เกม รับมือกันอย่างไร เพราะฝ่ายรัฐบาลก็ผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจมาถึง 3 ครั้งแล้ว

เสียงในสภาที่เคยห่างกันไม่ถึง 10 เสียง จะยังเอาตัวรอดมาได้แล้ว สิ่งที่ฝ่ายค้านจะทำได้ คือ อภิปรายฉายให้เห็นข้อมูล หลักฐาน ข้อเท็จจริง ในความผิดพลาดของรัฐมนตรีแต่ละคน

แม้จะลุ้นยากที่เสียงของพรรคร่วมรัฐบาลบางกลุ่มจะสะวิงโหวต มายกมือร่วมกับฝ่ายค้านให้ล้มรัฐบาลได้

ยิ่งสภาพของพรรคร่วมฝ่ายค้านในเวลานี้ ประสบปัญหาไม่ต่างกับ พรรค พปชร.นั่นคือ ไร้ความเป็นเอกภาพ

เป้าหมายสำคัญที่ฝ่ายค้านหวังผลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ นั่นคือ ทำให้ประชาชนเชื่อในข้อมูลของพรรคร่วมฝ่ายค้าน แล้วพร้อมใจกันไปกากบาท

สั่งสอนพรรคร่วมรัฐบาลผ่านการเลือกตั้งครั้งต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image