| ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
|---|
สถานีคิดเลขที่ 12 : ศึกหนัก 19-22 ก.ค.
สัปดาห์หน้า 19-22 ก.ค. สภามีงานใหญ่ คือ การอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯและ รมต. 10 คน รวม 11 คน
จากนั้นลงมติในวันรุ่งขึ้น 23 ก.ค. ถ้านายกฯได้เสียงไม่ไว้วางใจเกินครึ่งของ ส.ส.ในสภา จะตกเก้าอี้ ครม. สิ้นสภาพไปด้วย
พร้อมกับมีข่าวว่า ประธาน ชวน หลีกภัย ติดโควิด
ยังไม่ทราบว่า จะฟื้นตัวทันศึกอภิปรายหนนี้หรือไม่ ถ้าไม่ทันก็มีโอกาสจะยุ่งๆ เหมือนกัน
จะเป็นงานหนักของ 2 รองประธาน คือ นายสุชาติ ตันเจริญ และ นายศุภชัยโพธิ์สุ
ในเรื่องของการอภิปราย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ทำโพลสำรวจระหว่างวันที่ 4-7 กรกฎาคมที่ผ่านมา
สรุปสาระจากโพล ส่วนใหญ่มองว่าถึงเวลาแล้วที่จะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ, อยากให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจการแก้ปัญหาเศรษฐกิจมากที่สุด
สิ่งที่อยากเห็นจากการอภิปราย คือ เนื้อหาที่นำมาอภิปรายไม่ซ้ำ ค้านอย่างมีเหตุผล มีหลักฐาน
สิ่งที่ไม่อยากเห็น คือ การโต้เถียง ทะเลาะเบาะแว้ง การประท้วงบ่อยครั้ง
และมองว่าการอภิปรายที่กำลังจะมีขึ้นอาจจะมีผลให้เกิดการยุบสภา
ดูรายละเอียด แยกเป็นหัวข้อ มีความน่าสนใจ อาทิ
ถามว่า ประชาชนอยากให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในเรื่องใดบ้าง คำตอบ อันดับ 1 ผลงานของรัฐบาลในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ 75.67%
อันดับ 2 สาเหตุของสินค้าแพง การควบคุมราคาสินค้า 73.49% อันดับ 3 การทุจริต คอร์รัปชั่น เอื้อประโยชน์แก่พวกพ้อง 70.71%
อันดับ 4 การแก้กฎหมายเพื่อประโยชน์ของประชาชน 64.45% อันดับ 5 การใช้งบประมาณ การจัดซื้อจัดจ้าง อนุมัติโครงการต่างๆ 60.58%
ถามว่า สิ่งที่ประชาชนอยากเห็นจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ คำตอบ อันดับ 1 เนื้อหาที่นำมาอภิปรายไม่ซ้ำ ค้านอย่างมีเหตุผล มีหลักฐาน 80.18%
อันดับ 2 ควบคุมอารมณ์ สุภาพ ให้เกียรติกัน 77.50% อันดับ 3 นำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เกี่ยวข้องกับประชาชนโดยตรง 76.11%
ส่วนสิ่งที่ประชาชนไม่อยากเห็นจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ คำตอบ อันดับ 1 การโต้เถียง ทะเลาะเบาะแว้ง การประท้วงบ่อยครั้ง 84.33%
อันดับ 2 เล่นเกมการเมืองมากเกินไป ไม่คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชน 68.95%
อันดับ 3 พูดนอกประเด็น นำเรื่องเก่ามาพูด 64.84%
เชื่อว่ารัฐบาลและฝ่ายค้านคงเห็นโพลของสวนดุสิตชุดนี้กันแล้ว และน่าจะนำไปพิจารณาประกอบการวางแผนอภิปรายด้วย
ไฮไลต์ของการอภิปรายอยู่ที่การลงมติ ซึ่งตอนนี้พรรคเศรษฐกิจไทยไปแพ้เลือกตั้งซ่อมที่ลำปางแบบถล่มทลาย ประกาศขอวันทากราบลาบิ๊กป้อม
ถอยออกจากขั้วรัฐบาลที่พรรคบอกว่า เป็นเหตุให้ผู้สมัครของตนเองสอบตก
เป็นที่ฮือฮาขึ้นมาว่าการโหวตหลังอภิปราย คะแนนเสียงรัฐบาลจะพอหรือไม่
ถือว่า “ซ้ำรอย” กับอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อปี 2564 ที่ “ผู้กอง” เคลื่อนไหวดึงพรรคเล็กไม่โหวตให้นายกฯ จนลงท้ายมี รมต.ถูกปลดไป 2 คน
การเมืองในปีสุดท้ายของรัฐบาล นับวันยิ่งไม่ราบรื่น
วรศักดิ์ ประยูรศุข
