สถานีคิดเลขที่ 12 : ไม่รู้-ไม่รื้อ

สถานีคิดเลขที่ 12 : ไม่รู้-ไม่รื้อ น่าสังเกตว่า การทำหน้าที่รักษาการนายกฯ

สถานีคิดเลขที่ 12 : ไม่รู้-ไม่รื้อ

น่าสังเกตว่า การทำหน้าที่รักษาการนายกฯของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ทำนองว่า ยังคงเป็นการวนเวียนอยู่ในเครือข่าย 3 ป. จึงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น

มองในแง่นี้ จึงเข้าใจได้ว่า ทำไมยังปรากฏเสียงเรียกร้องให้ ทั้ง ป.ประยุทธ์ ป.ป้อม ประวิตร และ ป.ป๊อก อนุพงษ์ วางมือทางการเมืองไปด้วยกันทั้งหมด

ในหลักการแล้ว เมื่อเป็นเครือข่ายผู้ก่อรัฐประหารเมื่อ 22 พฤษภาคม 2557 เพื่อล้มประชาธิปไตย จึงไม่เป็นที่ยอมรับว่า มีความชอบธรรม เมื่อครบ 8 ปีตามกติการัฐธรรมนูญ ก็ควรต้องไปกันทั้งยวง

Advertisement

แต่ในสถานการณ์ที่เป็นจริง ในสิ่งที่เกิดเฉพาะหน้า เมื่อเสียงรัฐบาลปัจจุบัน ยังครองความเหนือกว่าฝ่ายค้าน

รัฐบาลก็ยังทำหน้าที่ต่อไป โดยมีรักษาการนายกฯ มาทำหน้าที่แทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่โดนสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่นายกฯ จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยข้อร้องเรียนการนั่งเก้าอี้นายกฯครบ 8 ปี

อีกทั้งไปๆ มาๆ การทำหน้าที่ของบิ๊กป้อม ดูลื่นไหลไปได้ดีกว่าการทำหน้าที่นายกฯของ พล.อ.ประยุทธ์ เสียอีก

Advertisement

จนทำให้ประชาชนจำนวนมาก ลืม พล.อ.ประยุทธ์ไปแล้วด้วยซ้ำ

ไปแล้วก็ไปเลย ทำนองนั้น

เพราะบิ๊กป้อมมีความพลิกพลิ้ว ไม่แข็งทื่อตายตัว ลดความขัดแย้ง แสวงหาความร่วมมือได้กว้างขวางกว่า

แค่การโทรศัพท์ไปถึง ผู้ว่าฯชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เพื่อแสดงเจตนาพร้อมร่วมมือกันในการป้องกัน กทม.ให้พ้นจากน้ำท่วม

แค่นี้ก็ถือว่าเป็นมวยกว่าเยอะ

อีกทั้งเมื่อมองการทำงานชิ้นใหญ่ๆ ของรักษาการนายกฯ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา คือ การไปนั่งเป็นประธานการประชุมตำรวจ ทั้งคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติหรือ ก.ต.ช. เพื่อแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่

ต่อด้วยการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจหรือ ก.ตร. เพื่อแต่งตั้งนายพลประจำปี

แม้จะมีการปล่อยข่าวว่า ฝ่ายบิ๊กป้อมสั่งรื้อโผโยกย้ายทั้งหมด และสั่งเลื่อนวันประชุมจากกำหนดเดิมที่วางไว้ คือ 29 สิงหาคม

เอาเข้าจริงๆ ไม่มีทั้งรื้อโผใหม่ ไม่มีทั้งการเลื่อนวันประชุมออกไป

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ได้รับแต่งตั้งเป็น ผบ.ตร.คนต่อไป เริ่มตั้งแต่ 1 ตุลาคม โดยเป็นชื่อที่วางเอาไว้ ตั้งแต่บิ๊กตู่ยังเป็นนายกฯ หารือกับ “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ปัจจุบัน แล้วลงเอยเป็นชื่อนี้

ขณะที่โผโยกย้ายนายพลตำรวจประจำปีหลายร้อยเก้าอี้ ก็ไม่มีการเอามาดูเอามารื้อกันใหม่

ปล่อยไปตามบัญชีที่บิ๊กตู่กับบิ๊กปั๊ดร่วมกันจัด

แม้ พล.อ.ประวิตรมีน้องชายเป็นถึงอดีต ผบ.ตร. ก็ไม่มีการมาล้วงโผรื้อโผแต่งตั้งนายพลตำรวจประจำปีอย่างใด

นี่คือความเป็นมวยของ พล.อ.ประวิตรและคนใกล้ชิดแวดล้อม

ไม่ใช่ว่า เมื่อได้ทำหน้าที่รักษาการนายกฯแล้ว ก็รีบร้อนใช้อำนาจ ลงมือรื้อโผนายพลตำรวจทันที

เช่นนี้เข้าทำนองอดเปรี้ยวไว้กินหวาน ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม ประมาณนั้น

รออีกสักหน่อย ถ้าหากต้องเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า ย่อมทำอะไรได้ชอบธรรมกว่าอย่างแน่นอน

สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image