สถานีคิดเลขที่ 12 : แต่งตั้งยุค ‘อิ๊งค์’

แต่งตั้งยุค‘อิ๊งค์’

ในที่สุดคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ที่มีนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร เป็นประธานก็มีมติแต่งตั้ง บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ (นรต.41) รอง ผบ.ตร.รักษาการ ผบ.ตร. เป็น ผบ.ตร.คนใหม่ แทน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ที่จะเกษียณอายุราชการในเดือนตุลาคมปีนี้

ตำแหน่ง ผบ.ตร.นี้มีกระแสข่าวตัวเต็งกันต่างๆ นานา แต่ในที่สุด ก.ตร.ในยุคของนายกฯอิ๊งค์ก็ตัดสินใจเลือกรักษาการขึ้นเป็นตัวจริง

ผลจากการแต่งตั้งครั้งนี้ทำให้ภาพพจน์ของการแต่งตั้งในยุคอิ๊งค์แตกต่างจากอีกหลายยุค

Advertisement

ก่อนหน้านี้ การแต่งตั้ง ผบ.เหล่าทัพ ที่มีปัญหาความเห็นต่างที่กองทัพเรือ ซึ่งมีกระแสข่าวว่า บิ๊กดุง-พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.ทร. (ตท.23) กำลังจะเกษียณอายุราชการลงได้เสนอชื่อ บิ๊กแมว-พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพเรือ ขึ้นเป็น ผบ.ทร.แทน

แต่ปรากฏว่ามีกระแสเสียงคัดค้านเกี่ยวเนื่องในประเด็น “นายเรือไทย” หรือ “นายเรือเมอร์วิค” ทำให้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่เพิ่งรับตำแหน่งต้องมีส่วนตัดสินใจ

Advertisement

ในที่สุด พล.ร.อ.จิรพล ก็ได้รับการแต่งตั้งเป็น ผบ.ทร.ตามที่ พล.ร.อ.อะดุง เสนอ

ถือเป็นการแหวกม่านประเพณีของทัพเรือที่เคยทำมา

จึงไม่แปลกที่ พล.ร.อ.อะดุง ถึงกับหลั่งน้ำตาในวันอำลาตำแหน่ง เพราะ “ทัวร์ลงหนัก”

และหากผลการประชุม ครม.วันที่ 8 ตุลาคม เป็นไปตามข่าว ชื่อของ นายฉัตรชัย บางชวด รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะได้รับการพิจารณาดำรงตำแหน่ง เลขาฯสมช.

นายฉัตรชัย เป็น “ลูกหม้อ” ของ สมช.ที่ได้นั่งในตำแหน่งสูงสุดของหน่วยงาน

ถือเป็นการทำลายอาถรรพ์ที่ก่อนหน้านี้มีแต่คนนอกหน่วยมานั่งเป็นผู้บังคับบัญชา

ถือเป็นการแต่งตั้งที่ลดกระแสข่าว “ข้ามหัว” กระแสข่าว “ข้ามห้วย” รวมถึงกระแสข่าว “พลิกโผ” ลง

จำได้ว่าตอนที่เครือมติชนไปสัมภาษณ์นายภูมิธรรมเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย

นายภูมิธรรม บอกว่า เรื่องคนไม่มีใครรู้ดีกว่าผู้บังคับบัญชาที่อยู่ในหน่วยต่างๆ

หลักการ คือ ให้เกียรติผู้บังคับบัญชาในแต่ละหน่วย และเลือกคนตามที่หัวหน้าหน่วยนำเสนอ

แต่หลังจากคนที่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นมาดำรงตำแหน่ง

ผลการทำงานของคนที่ได้รับการเสนอนั้นเป็นเช่นไร จะเป็นเครื่องวัดความยั่งยืนในการดำรงตำแหน่ง

ไม่ว่าจะเป็นเช่นไร เชื่อว่า การตัดสินของฝ่ายการเมืองที่ยืนตามข้อเสนอของฝ่ายราชการประจำในเรื่องการแต่งตั้ง จะส่งผลต่อรัฐบาล นายกรัฐมนตรี และรองนายกฯฝ่ายความมั่นคงที่เพิ่งเข้ามาทำหน้าที่

เบื้องต้น “หลักการ” นี้สร้างผลบวกให้ผู้นำหน่วยคนใหม่แน่นอน

ส่วนผลดีจะส่งต่อไปถึงการปฏิบัติของหน่วยแค่ไหน ต้องขึ้นอยู่กับผู้นำหน่วยคนใหม่ด้วย

ถ้าสามารถนำหน่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพหลักการ “ข้ามหัว” กระแสข่าว “ข้ามห้วย” รวมถึงกระแสข่าว “พลิกโผ” ก็จะมีพลัง

แต่ถ้าผลที่ออกมาเป็นตรงกันข้าม อะไรๆ ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้

นี่ถือเป็นการแต่งตั้งต้นยุคนายกฯอิ๊งค์

ส่วนหลังจากบริหารราชการแผ่นดินไปได้ 1 ปีแล้วจะเป็นเช่นไรคงต้องติดตาม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image