| ผู้เขียน | พันธศักดิ์ รักพงษ์ |
|---|
ประเด็นดราม่าการเมือง เมื่อจู่ๆ 36 สนช.เข้าชื่อเพื่อให้มีการแก้ไข พ.ร.ป.ว่าด้วย กกต.ในส่วนของผู้ตรวจการเลือกตั้ง
ทั้งๆ ที่ พ.ร.ป.ฉบับนี้ผ่านสภาออกมาได้ก็เพราะ สนช.ชุดนี้เป็นคนพิจารณาในกระบวนการสุดท้าย จึงเกิดความสงสัยว่าทำงานกันอย่างไร พิจารณากันอย่างไร เพิ่งมาเห็นว่าจะเกิดปัญหา จึงต้องนำกลับไปแก้ไขใหม่
เพราะการแก้ไขกฎหมายลูกที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งไม่ได้ใช้เวลาแก้แค่ 1-2 วัน แต่ต้องใช้เวลานานหลายเดือน
ย่อมส่งผลกระทบต่อโรดแมปเลือกตั้งอย่างแน่นอน
ยิ่งฟังเหตุผลของ ศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต.ชุดเก่า ซึ่งอีกไม่นานก็จะพ้นจากตำแหน่งยิ่งรู้สึกได้ว่ามีกลิ่นไม่ดี
เพราะขณะนี้ยังไม่มีการแต่งตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้ง อยู่ในขั้นตอนรับฟังข้อมูลจากจังหวัดต่างๆ ว่า 616 คนที่คัดเลือกแล้วนั้นว่ามีคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม มีความประพฤติอย่างไร มีความเป็นกลางหรือไม่ กว่าจะแต่งตั้งก็ปลายเดือนกันยายน คาดว่า กกต.ชุดนี้คงพ้นหน้าที่ไปแล้ว กกต.ชุดใหม่น่าจะเป็นผู้ลงนามประกาศรับรอง และถ้าปรากฏว่ามีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า
ผู้ตรวจการเลือกตั้งประพฤติมิชอบ ไม่เป็นกลาง ขาดคุณสมบัติ กกต.มีมติปลดได้ทันที แม้แต่งตั้งไปแล้วก็ตาม
ที่ขอให้ กกต.ขยายกรอบเวลาการคัดเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้งออกไปก่อน เพื่อรอให้ กกต.ชุดใหม่เข้ามาคัดเลือกนั้นไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะต้องทำตามกฎหมายและระเบียบที่วางไว้ หากไม่ทำก็อาจถูกผู้ที่ได้รับการคัดเลือกฟ้องร้องได้
ดังนั้น ความจำเป็นที่ กกต.ชุดเก่าต้องดำเนินการไปนั้น ก็เนื่องจากผู้ตรวจการเลือกตั้งนั้นจะเกี่ยวพันกับกับการเลือกตั้ง เริ่มจากการได้มาซึ่ง ส.ว.
และที่สำคัญอาจจะทำให้เกิดปัญหา ทำให้การเลือกตั้งจะต้องล่าช้าออกไป
แม้แต่มือกฎหมายของ คสช. มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ซึ่งเป็นคนร่างมากับมือก็ยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น หรือ สนช.คิดอย่างไร เพราะกรณีดังกล่าวเป็นอำนาจของ กกต. เจตนารมณ์ของการให้มีผู้ตรวจการเลือกตั้ง เพื่อให้มีบุคคลที่เป็นมือไม้ของ กกต.ในการตรวจสอบการเลือกตั้ง
กกต.ชุดปัจจุบัน กลัวว่าจะไม่ทันการณ์ หรือเตรียมการเลือกตั้งที่จะมาถึง แต่เมื่อ กกต.ชุดใหม่เข้าปฏิบัติหน้าที่เชื่อว่าชุดใหม่ต้องพิจารณาเช่นกันว่าทำมาดีแล้วหรือไม่ และอาจทบทวนหรือแก้ไขได้ตามกระบวนการ โดยไม่ถึงขั้นต้องยื่นแก้ไขกฎหมาย
หากอยากให้มีการเปลี่ยนแปลงรายชื่อผู้ตรวจการเลือกตั้งก็ยังแก้ไขได้ หากไปตรวจสอบแล้วพบว่า 616 คนนั้นมีคุณสมบัติไม่เหมาะสมก็สามารถยกเลิกการแต่งตั้งได้จาก กกต. ชุดใหม่ เพราะยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ รับฟังความคิดเห็น
แต่วิธีการจะขอแก้ไขกฎหมายเพื่อหวังใช้กฎหมายที่แก้ไขใหม่เพื่อยกเลิก 616 ผู้ตรวจฯดำเนินการไปแล้ว มันเริ่มมีกลิ่นทะแม่งๆ อย่างไรชอบกล
ยิ่งจับน้ำเสียงจาก “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกฯ ดูเหมือนว่าจะพยายามหนุนหลัง สนช.ให้แก้ไขด้วยซ้ำ แม้จะออกมาย้ำด้วยว่า ไม่ทำให้โรดแมปการเลือกตั้งต้องล่าช้าออกไป
แต่คำพูดของ “บิ๊กตู่” ที่บอกว่า “เลือกตั้งก็คือเลือกตั้ง
เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ถึงวันไหนก็ทำกันวันนั้น”
คำพูดและน้ำเสียงแบบนี้ นักการเมืองหลายคนต่างลงความเห็นว่า “กลัวการเลือกตั้ง” แน่นอน…
