เดินหน้าชน : ‘เพื่อไทย’ ลั่นกลองรบ

ศึกภายในพรรคเพื่อไทยคุกรุ่นเกิดกระแสข่าวขัดแย้งออกมาเป็นระลอกๆ โดยเฉพาะการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ เป็นตัวแทนถือธงนำสู้ศึกเลือกตั้งชี้ชะตาการเมืองในช่วงต้นปีหน้า

ชื่อของ “หญิงหน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ถูกหยิบขึ้นมาเป็นนายหญิงของพรรค ภายใต้ไฟเขียวจากคนบ้านใหญ่ตระกูลชินวัตร แต่ดูเหมือนว่าจะมี ส.ส.ภาคเหนือและอีสานออกมาขยับคัดค้าน เพราะมองว่าฐานเสียงคุณหญิงสุดารัตน์กระจุกอยู่ใน กทม. จึงไม่มั่นใจว่าจะดูแล ส.ส.ภาคอื่นได้เสมอภาคหรือไม่

แม้สัญญาณการสนับสนุนจากคนคุมกฎบ้านใหญ่ แต่เสียงจากดูไบก็กำชับหญิงหน่อยว่าต้องแสดงศักยภาพให้เห็นเช่นกันว่าเอาพรรคอยู่ แต่ถึงวันนี้กระแสต้านก็ยังออกมาประปราย ความเป็นเอกภาพยังไม่เต็มร้อย

ยิ่งสถานการณ์ความเปราะบางของพรรคเพื่อไทยที่มีชนักติดหลังจนถึงขั้นยุบสลายพรรค ดังนั้น อดีตแกนนำพรรคหลายคนพยายามหลบเลี่ยงไม่อยากเข้าเป็นกรรมการบริหารพรรค เพราะมีสิทธิติดบ่วงเว้นวรรคการเมือง ประกอบกับรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ระบุว่าคนเป็นนายกรัฐมนตรีก็ไม่จำเป็นต้องนั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรค แต่ขอให้มีชื่อติด 1 ใน 3 ที่จะได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีได้

Advertisement

ทิศทางการประชุมพรรคเพื่อไทยในวันที่ 28 ต.ค.นั้น ชื่อของ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ จะนั่งเป็นหัวหน้าพรรค โดยมี “พี่อ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย เป็นเลขาธิการพรรค ส่วนรูปแบบกรรมการบริหารชุดนี้จะใช้คนเพียงไม่กี่คน ตั้งให้ครบตามข้อกฎหมาย โดยเฉพาะตำแหน่งสำคัญ อาทิ รองหัวหน้า เหรัญญิก นายทะเบียนพรรค โดยรวมไม่น่าเกิน 13-15 คน

ส่วนชื่อ “คุณหญิงสุดารัตน์” จะเป็นชื่อแรกในบัญชีรายชื่อว่าที่นายกรัฐมนตรีที่ต้องเสนอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในวันสมัครเลือกตั้ง

การเดินเกมนี้ ด้านหนึ่งพรรคเพื่อไทยต้องการให้เกิดความชัดเจนในการหาเสียงเลือกตั้ง เพื่อรักษาฐานเสียงของพรรค เพราะอย่าลืมว่า “หญิงหน่อย” มีความสนิทสนมกับ ทักษิณ ชินวัตร ถือเป็นหนึ่งในคนที่ร่วมหัวจมท้ายกับพรรคมาตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย นับว่ามีประสบการณ์ผ่านร้อนผ่านหนาวทางการเมืองมามิใช่น้อย นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีมาแล้วหลายกระทรวง

กลยุทธ์การหาเสียง ภาพของ “หญิงหน่อย” ว่าที่นายกรัฐมนตรีหญิง ที่ผูกติดกับภาพ “ทักษิณ” ย่อมสร้างความเชื่อมั่นให้กับบรรดาสมาชิกและมวลชนทั่วประเทศว่า “ชินวัตร” ไม่ไปไหน ยังคงลงหลักปักฐานอยู่กับพรรคเพื่อไทยเช่นเดิม

เช่นเดียวกับกลยุทธ์ต่างๆ ก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง พรรคเพื่อธรรมใต้ร่มเงา สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ก็เคยเป็นแกนนำของพรรคเพื่อไทยมาก่อน การปักฐานที่เชียงใหม่ คือ สัญลักษณ์เมืองหลวงของเพื่อไทย ตามหมากที่วางไว้ว่าพรรคเพื่อธรรม จะคอยเก็บคะแนน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์แทนพรรคเพื่อไทย แต่การประเมินล่าสุด การแยกกันตี ร่วมกันชนะ อาจจะไม่ได้ผล แทนที่จะได้คะแนนเสียงเป็นกอบเป็นกำ อาจจะกลายเป็นการตัดคะแนนกันเอง จนเสียท่าให้กับพรรคคู่แข่ง

จึงกลับไปใช้แนวทางเดิม คือ กวาด ส.ส.เขตให้ได้มากที่สุด หากได้ 200 เสียงขึ้นไปเหมือนการเลือกตั้งปี 54 ที่กวาด 204 คน โอกาสเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล รวบรวมพรรคการเมืองอื่นๆ เข้ามาร่วมรัฐบาลย่อมง่ายกว่า

สำหรับพรรคเพื่อธรรมจะส่ง ส.ส.ลงเฉพาะบางเขตเลือกตั้งเพื่อดำรงสถานะเป็นพรรคการเมือง เพราะภารกิจหลักนั่น คือ พรรคสำรองหากพรรคเพื่อไทยถูกยุบ เช่นเดียวกับ พรรคเพื่อชาติที่ใช้ฐานมวลชนคนเสื้อแดง และพรรคไทยรักษาชาติ ก็กำลังแต่งองค์ทรงเครื่องรองรับหมากการเมืองตามสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น

ณ วันนี้พรรคเพื่อไทยเริ่มวางโครงสร้าง ตัวบุคคล และกับดักการเมืองที่ถูกวางไว้ ทุกอย่างเดินหน้าเพื่อเตรียมความพร้อมรับเลือกตั้งและท้าชิงเก้าอี้นายกฯ เป็นการลั่นกลองรบท้าชนพรรคพลังประชารัฐ ที่คาดว่าจะวางตัว “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เอาไว้แล้วเช่นกัน

สิ่งที่เฝ้ารอ คือ หมากของผู้มีอำนาจเร่งปฏิกิริยาเตะตัดขาพรรคเพื่อไทย ใน 2 เงื่อนตาย คือ ขัดคำสั่ง คสช. และปม “ทักษิณ” ครอบงำพรรค เพื่อจะได้ปรับหมากพลิกเกมได้ทันตามสถานการณ์การเมืองภายใต้อำนาจรัฐ

พันธศักดิ์ รักพงษ์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image