การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในหลายประเทศทั่วโลกยังไม่มีแนวโน้มว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ตัวเลขของคนติดเชื้อและเสียชีวิตยังพุ่งสูงทุกๆ วัน
ทำให้เวลานี้ไม่สามารถคาดการณ์ได้เลยว่าโควิด-19 จะหยุดการแพร่ระบาดเมื่อไร
ส่วนวัคซีนที่หลายๆ ชาติกำลังพัฒนาจะนำมาใช้สยบ
โควิด-19 ได้หรือไม่
ในส่วนของบ้านเรานั้น แม้ที่ผ่านมาจะมีการใช้มาตรการคุมเข้ม สกัดการแพร่ระบาดของคนที่เดินทางเข้าออกประเทศไทย รัฐบาลขอความร่วมมือ และสั่งห้ามจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวของประชาชนจำนวนมาก
แต่ความจริงจังที่จะปฏิบัติตามยังมีความย่อหย่อน มีการฝ่าฝืนจัดกิจกรรมในหลายๆ พื้นที่ เช่น เวทีชกมวยเมื่อวันที่ 6 มีนาคม เป็นอีกแหล่งหนึ่งของการแพร่ระบาดโควิด เซียนมวย ประชาชนจำนวนมากติดเชื้อจากที่นี่ ก่อนจะแพร่กระจายไปในหลายจังหวัด
ส่วนมาตรการล่าสุดที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ประกาศ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ทั่วประเทศ มีผลมาตั้งแต่ 26 มีนาคม ไปจนถึง 30 เมษายน เพื่อจัดการกับปัญหาโรคโควิด-19
แม้จะมีข้อกำหนดมากมายเพื่อสกัดการแพร่ระบาด ทั้งการสั่งปิดสถานที่เสี่ยง การควบคุมเข้มเรื่องการเดินทางของประชาชน การตั้งด่านตรวจ 300 กว่าจุดทั่วประเทศ เป็นต้น
แต่ถ้าประชาชนยังเพิกเฉย “ไม่อยู่บ้าน” ลดความเสี่ยงของการแพร่หรือรับเชื้อโควิด-19 ก็คงเป็นเรื่องยากที่ พ.ร.ก.ฉุกเฉินจะควบคุมสถานการณ์ได้
หากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังพุ่งทะยานเกินกว่าที่จะควบคุมการแพร่ระบาดได้ รัฐบาลก็คงไม่มีทางเลือกที่จะประกาศ “เคอร์ฟิว” อย่างแน่นอน
สิ่งที่น่ากังวลในเวลานี้ คือการเดินทางของประชาชนจะนำไปสู่การแพร่ระบาด มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก
อย่างคำเตือนของ นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ที่ออกมาแถลงเมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา ว่า
จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เริ่มเร่งตัวขึ้นจากการพบเชื้อในผับ และสนามมวย ทำให้ความกังวลจากการเร่งตัวดังกล่าวเป็นอย่างมาก
อยากให้ทุกคนเคร่งครัดในมาตรการอยู่บ้านเพื่อควบคุมโรค แต่ถ้าทุกคนยังออกจากบ้านตามปกติ ในวันที่ 15 เมษายนนี้
คาดว่าไทยจะมีคนติดเชื้อโควิด-19 ประมาณ 350,000 ราย มีผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล 52,792 ราย เข้าห้องไอซียู 17,597 ราย และเสียชีวิต 7,039 ราย
แต่ถ้าช่วยกันลดให้อัตราเร่งตัวเหลือ 20% ต่อวันได้สำเร็จ ในวันที่ 15 เมษายนนี้ คาดว่าจะมีจำนวนผู้ป่วย 24,269 ราย เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล 3,640 ราย, เข้าห้องไอซียู 17,597 ราย และเสียชีวิต 485 ราย
การคาดการณ์ของ นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา ไม่ใช่สิ่งที่เกินจริง
เพราะยอดผู้ติดเชื้อในไทยล่าสุด (ข้อมูล 28 มี.ค.) อยู่ที่ 1,245 คน เสียชีวิต 6 ราย มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกๆ วัน
และสัดส่วนผู้ติดเชื้อในพื้นที่ต่างจังหวัดมีอัตราที่เพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับพื้นที่ กทม.
เห็นด้วยกับคำกล่าวของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ขอให้ประชาชนคนไทยทุกคนได้ร่วมพร้อมใจกันอยู่บ้าน
เพื่อป้องกันตัวเองและเพื่อแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ ที่ทุ่มเทกันอย่างเหน็ดเหนื่อยแต่ไม่ได้ย่อท้อที่จะรักษาชีวิตของทุกคน จึงขอให้ประชาชน “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ”
ถึงเวลาที่ทุกคนต้องรวมใจ รวมพลัง เพื่อฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้
